แนวหน้า – วันที่ 14 กรกฎาคม นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด ให้ความเห็นถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งเปิดช่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง รับฟ้องและสามารถพิจารณาคดีลับหลังนักการเมืองที่ถูกยื่นฟ้องคดีต่อศาล แต่มีพฤติกรรมหลบหนีคดีได้ รวมถึงไม่ให้นับอายุความของคดีในระหว่างที่จำเลยหลบหนีคดีว่า กฎหมายตัวนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของอัยการมากนัก แต่จะส่งผลต่อตัวจำเลยและศาลมากกว่า เพราะจะทำให้คดีความเดินไปได้ ไม่ติดขัด ไม่เช่นนั้นมันจะหยุดลง ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า วิธีการดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักสากลนั้น ในต่างประเทศเขาก็มีวิธีการแบบนี้ การพิจารณาลับหลังใช่ว่าจะลับหลังเลยเสียทีเดียว เขาให้โอกาสจำเลยในการต่อสู้คดีแล้วเป็นขั้นเป็นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความเหลื่อมล้ำระหว่างนักการเมือง เอกชน ข้าราชการ ที่มีส่วนร่วมในการทุจริต นายเข็มชัย ตอบว่า ไม่เกี่ยวข้องกันเพราะกรณีของนักการเมืองมีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นแผนกพิเศษขึ้นมาอยู่แล้ว โดยจุดประสงค์ใหญ่ที่ทำให้มีกฎหมายฉบับนี้ เพราะนักการเมืองสร้างผลกระทบต่อสังคมมาก ส่วนมากจะเป็นคดีใหญ่ๆ ที่สำคัญนักการเมืองมาเร็วไปเร็ว โจทย์ใหญ่จึงต้องการให้ตัดสินให้เร็ว แตกต่างกับเอกชนและข้าราชการที่ไปทุจริตเพียงเล็กน้อย จึงให้ว่าไปตามระบบได้
เมื่อถามว่า ตามหลักนิติธรรม การออกกฎหมายอะไรที่เป็นโทษจะไม่มีผลย้อนหลังกับจำเลยใช่หรือไม่ นายเข็มชัย กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ คือ วิธีพิจารณา ดังนั้นทำให้มีผลทันทีและมีผลไปถึงคดีที่เกิดก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ด้วย ส่วนที่ระบุว่าไม่ให้มีผลย้อนหลังนั้นคือ บทบัญญัติเกี่ยวกับโทษทางอาญา
เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้คดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกจำหน่ายชั่วคราวเพราะจำเลยหลบหนี จะพิจารณาต่อได้เลยหรือไม่ นายเข็มชัย กล่าวว่า “ก็อาจจะเดินต่อได้ แต่ใช่ว่ากฎหมายดังกล่าวจะเจาะจงใครคนใดคนหนึ่ง เพราะกฎหมายนี้จะต้องใช้ต่อไปในอนาคต”
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน