‘เถวิลวดี ชี้ ผลโพลสะท้อน ประชาชนยังให้โอกาสรัฐบาลทำงาน อย่าเปรียบเทียบเป็นประเด็นการเมือง
ตรงประเด็น – นางถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงผลโพลสถาบันพระปกเกล้าว่า เป็นผลสำรวจจากเสียงสะท้อนประชาชนในช่วงเวลานั้นๆ เช่น รัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับความนิยม 92.9% ในปี 2546 และตกลงมากอยู่ที่ 77.2 % ในปี 2549 สะท้อนว่าในปี 2549 ประชาชนเริ่มรับรู้และไม่มั่นใจในรัฐบาลขณะนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่มีการชุมนุมประท้วง และกล่าวหารัฐบาลว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้ประชาชนเริ่มรับรู้ข้อมูลว่ารัฐบาลที่ตัวเองเลือกมานั้นมีข้อเสียอย่างไร ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้คะแนนความนิยมไม่ดีนักคือในปี 2553 61.6% และตกลงมาเหลือ 51.2 % เพราะเป็นรัฐบาลผสม อีกทั้งในปี 2553 ยังมีปัญหาทางการเมืองรุนแรงในประเทศไทย ส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ดี เพราะรัฐบาลจะทำอะไรก็มีปัญหา
นางถวิลวดี กล่าวว่า ส่วนใหญ่ความนิยมของพรรคการเมืองจะเป็นเช่นนี้ คือมีช่วงที่ได้คะแนนนิยมสูงในระยะแรกหลังจากได้รับการเลือกตั้ง จากนั้นเมื่อเข้ามาทำงานสักระยะหนึ่ง คะแนนความนิยมก็จะลดลง เพราะประชาชนเห็นว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรจากรัฐบาล แต่เมื่อไหร่ที่รัฐบาลผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง มีผลงานถูกใจประชาชนอย่างต่อเนื่อง ประชาชนก็จะให้ความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มแรกประชาชนไม่ได้คาดหวังแค่เรื่องความสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ต่อมาเมื่อรัฐบาลแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ดี บ้านเมืองสงาบ จึงส่งผลให้มีคะแนนนิยมที่ดีขึ้นตามลำดับโดยในปี 2558 ได้ 87.5% และลดลงเล็กน้อยใน 2 ปีต่อมาอยู่ที่ 84.6 % และผลงานสำคัญของรัฐบาลนี้คือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นางถวิลวดี กล่าวว่า ที่คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในระดับที่ถือว่าดีนั้น เพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่มีการหาเสียงแบบนักการเมือง ไม่มีการโฆษณาว่าจะทำอะไรให้ชาวบ้าน แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วก็ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ประชาชนจึงให้การสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาประชาชนเบื่อหน่ายกับปัญหาความขัดแย้งอย่างมาก ผลโพลของพล.อ.ประยุทธ์ สะท้อนว่า ประชาชนยังให้โอกาสได้ทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ได้ และคะแนนที่ลดลงเพียงน้อยนั้นไม่ถือว่ามีนัยยะสำคัญใดๆ
“สื่อจะต้องอธิบายด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่จับรัฐบาลนี้ไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลอื่น หรือเปรียบเทียบกันไปมาเพื่อสร้างประเด็นทางการเมือง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่สามารถเทียบกันได้ เนื่องจากเป็นการสำรวจคนละปี ไม่ได้สำรวจว่าจากรัฐบาลนายทักษิณถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใครได้รับความนิยมกว่ากัน การทำโพลนี้ก็เพื่อจะรับรู้เสียงสะท้อนของประชาชน ว่าเรื่องใดบ้างเป็นสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วย และเรื่องใดบ้างเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงแก้ไข
สำนักข่าววิหคนิวส์