4 กรกฎาคม 2560 หลังจากที่ทหารได้เรียก นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สคยท.)
ได้โพสใน facebook ส่วนตัวระบุว่า ” เรียน พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง วันนี้ผมไปพบทหารตามนัด ปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง
1.พ.อ.ปัญญ์สวัฒกก์ มาลารัตน์ รองผอ.รมน.จว.ชพ ยืนยันว่าเชิญสุนทร รักษ์รงค์ มาพบเพื่อทำความรู้จักและรับฟังปัญหา ไม่ได้เรียกมาปรับทัศนคติ หรือเจตนาข่มขู่เพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
2.การพูดคุยในวันนี้ มีตัวแทนเกษตรจังหวัดชุมพร
และตัวแทนการยางแห่งประเทศไทย เข้าร่วมหารือด้วย
3.ผมในฐานะเลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สคยท.) จึงได้ยื่นข้อเสนอเพื่อปฏิรูปการยางไทย ต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านท่านรองผอ.รมน.จว.ชพ.โดยมีเนิ้อหาหลักให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา ๔๔ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการใช้ยางในประเทศให้ถึง ๒๕% ภายใน ๒ ปี โดยให้ประกาศนำร่องการใช้สต็อกยาง ๑๐๐,๐๐๐ ตัน ส่งมอบแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบจ.ที่มีความพร้อมนำยางไปลาดถนนผสมยางพารา และรายละเอียดอื่นตามที่เคยยื่นข้อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย 2560
4.ผมยืนยันกับท่านรอง ผอ.รมน.จว.ชพ.ฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ประชาชนเริ่มไม่ค่อยไว้ใจและเชื่อใจทหารแล้ว ประชาชนสัมผัสได้ว่าทหารกำลังกระทำการ เพิ่มอำนาจทุน หนุนอำนาจรัฐ แต่จำกัดอำนาจประชาชน นับวันทหารยิ่งไม่ได้รับใช้เกษตรกรและคนจน แต่กลับไปรับใช้กลุ่มทุน ในหลายกรณี เช่นการใช้มาตรา 44 เพื่อให้นายทุน สามารถทำปิโตรเลียม เหมืองแร่ กังหันลม และอื่นๆ ในที่ดิน สปก.อันเป็นที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตร แต่พอเกษตรกรชาวสวนยางเรียกร้องให้ คสช.ใช้มาตรา 44 ให้มีการใช้ยางในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาราคายางตกต่ำบ้าง รัฐบาลกลับอ้างโน่นอ้างนี่ ติดขัดไปหมด
5.ผมแสดงความห่วงใย ที่นายกรัฐมนตรีและทหารรับชุดความคิดเดียวจากข้าราชการ และด่วนสรุปว่าที่ราคายางตกต่ำเป็นเพราะการปลูกยางในพื้นที่ป่า 3 ล้านไร่ เป็นการพูดที่ขาดข้อมูลรอบด้าน ไม่ครอบคลุมทุกมิติ อีกทั้งยังเป็นการผลักความผิดให้เกษตรกรชาวสวนยางอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผลผลิตยางปีนี้ก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น และขอถามว่าทำไมตอนราคายางขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลบอกตอนนั้นว่าเป็นเพราะนโยบายทวงคืนผืนป่า แปลความว่าเพราะพื้นที่ลดลงราคายางจึงขึ้น แต่พอปีนี้ทำท่าจะแก้ปัญหาราคายางไม่ได้ ก็โยนบาปให้พี่น้องชาวสวนยาง เป็นการใช้ตรรกะผิดเพี้ยนและขาดความรับผิดชอบ”
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน