‘มงคลกิตติ์’ พร้อมคณะร่วมประชุมสมาชิก ปชป. อุทัยธานี เพื่อคัดเลือกตัวแทนประจำจังหวัด -ชู'กุลเดช-วิทยา'ทำงานให้ชาวอุทัยเหมือนกับเป็น สส.-ชี้ นโยบาย'ประกันรายได้'ช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พร้อมชูแนวทางการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของ'ดร.เฉลิมชัย' ทำเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ สำนักสงฆ์ภูชัยทองวิปัสนา ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนางสาว ภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชี-อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ฐานะ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นางสาวกฤษยากร สรชัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมการประชุมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใน จ.อุทัยธานี เพื่อเลือกตั้งตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ใน จ.อุทัยธานี พร้อมกับพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาโดยจะนำมาจัดทำเป็นนโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดอุทัยธานี เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทั้ง นายกุลเดช พัวพัฒนกุล อดีต ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี เขต 1 ของพรรค และ นายวิทยา จันทร์สม อดีตผู้สมัคร สส.หลายสมัย ที่ยังตั้งใจทำงานให้ชาวอุทัยธานี ในนามพรรคประชาธิปัตย์ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ต้องบอกว่า คนที่กล่าวมานี้เป็นคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าใครจะมาบริหารพรรค ก็ยังรักพรรคไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ย้ายหนีไปไหน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง ต่างพรรคการเมืองหลายพรรคที่พอคนที่มีอำนาจวาสนาและบารมีพอหมดสิ้นไปก็จากพรรคไปหมด ในสิ่งที่ตนกล่าวมานั้น พรรคก็จะไม่สามารถเดินต่อได้ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานให้กับชาวอุทัยธานี มาอย่างยาวนาน และในวันนี้คนอุทัยธานีไม่ได้มี สส. แค่ 2 คนเท่านั้น จากพรรคภูมิใจไทย แต่ยังมีทั้งนายกุลเดช และ นายวิทยา ที่เป็น สส.นอกสภาที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้กับคนอุทัยธานี ด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ชาว จ.อุทัยธานี ก็ได้เสนอปัญหามาให้ทางพรรคประชาธิปัตย์แก้ไข 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ เรื่องปัญหาราคามันสำปะหลัง และ ข้าวโพดตกต่ำ ทั้งนี้ ในช่วงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มี สส. หลายพรรคเสนอให้มีการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร แต่ตนต้องบอกว่า นโยบายประกันราคาถือเป็นการแทรกแซงราคาโดยรัฐบาล ถือเป็นการผิดกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) เพราะฉะนั้น นโยบายที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขปัญหา
คือการประกันรายได้เกษตรกร เพราะเป็นการโอนเงินส่วนต่างราคาเข้าไปยังเกษตรกรโดยตรง ทำให้เกษตรกรไม่ต้องพะวงถึงสารพัดปัญหา สามารถนำเงินดังกล่าวไปชำระหนี้สินที่ติดค้างหรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงระดับฐานราก แต่นโยบายนี้หากจะเดินหน้าก็ต้องขอให้ประชาชนชาว จ.อุทัยธานี สนับสนุนโดยการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้มากที่สุดและมากพอที่จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวได้โดยสะดวก ส่วนในเรื่องของที่ดินทำกินของประชาชนนั้น
เนื่องจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคฯ เป็นคนที่มาจากครอบครัวของเกษตรกรที่มีที่ดินที่แห้งแล้ง ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกได้ว่า เป็นคนที่มาจากดิน เหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ โดย ดร.เฉลิมชัย เห็นว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็น ขณะเดียวกัน เมื่อมีโอกาสในการแก้ไข ดร.เฉลิมชัย ก็ต้องการให้เกษตรกรไทย หลุดพ้นจากปัญหาที่ครอบครัวของท่านประสบเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ท่านจึงให้ความสำคัญกับเรื่องที่ดินทำกินเป็นอย่างมาก โดยได้ดำเนินการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในหลายพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้กับประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ราษฎร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และมีอาชีพที่มั่นคงสามารถอยู่ร่วมกันกับป่าได้อย่างยั่งยืน ถือเป็นสิ่งที่ ดร.เฉลิมชัย และพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน ได้ทำมาตลอดคือ การทำงานเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของประชาชน ไม่ใช่ทำงานเพื่อสร้างกระแสชั่วครั้งชั่วคราวอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าว นายวิทยา จันทร์สม ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ซึ่งที่ประชุมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เลือกสมาชิกจำนวน 5 คน ขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ประจำจังหวัดอุทัยธานี ได้แก่ นายวิทยา จันทร์สม นายกุลเดช พัวพัฒนกุล นายชัยอนันต์ จันทมนตรี นายอิสรพงษ์ ศรีแจ้ และนางสาวชณัศณา สังข์ศรีอินทร์ ทั้งนี้ หลังจากที่มีการประชุมเพื่อคัดเลือกตัวแทนประจำจังหวัดฯ แล้ว นายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา ประชุมแนวทางการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำทับเสลา เพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนว่า จะสามารถมีน้ำใช้ให้ประชาชนตลอดช่วงฤดูแล้ง (มีนาคม – พฤษภาคม) และเสนอแนวทางในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.อุทัยธานี ด้วย