ถึงเวลา แตกหัก !!
รอยร้าวทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลระหว่าง พรรคเพื่อไทย (พท.) กับ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการขบเหลี่ยมกันอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะถึงจุดแตกหัก โดยนายอนุทิน-ภท.ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่ร่วมพิจารณาแก้ไข รธน.ชี้ขาดว่า รัฐสภามีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไข รธน.ของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน โดยไม่ต้องทำประชามติก่อนได้หรือไม่ ภท.ก็ขานรับและพร้อมสนับสนุน ทำให้การขบเหลี่ยมเรื่องแก้ไข รธน.ยุติลงชั่วคราว ไหนจะการแก้ปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการเรียกร้องให้ตัดไฟเมืองบาป ฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา นายอนุทิน ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็โยนเผือกร้อนให้นายกฯ และ ครม.มีคำสั่งลงมาอย่างเป็นทางการจึงดำเนินการได้ตามกฎหมาย กระทั่งที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน 5 จุด ถึงดำเนินการได้
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้ตั้งคดีสืบสวนไว้แล้ว จะต้องนำเข้าเป็นคดีพิเศษฐานความผิดอาญาอื่น "ผู้มาร้องได้มาพบกับผม และมีการนำโพยมาให้ว่ากลุ่มที่ 1 หมายเลขนั้นหมายเลขนี้ฮั้วกัน จนถึงหมายเลข 20 พบว่าเป็น สว.อยู่ประมาณ 138 คน และ สว.ลำดับสำรองอยู่ 2 คน โดยเป็นพยานเอกสาร ซึ่งไม่มีใครทำได้” การจะเอาผิดกลุ่ม สว.สีน้ำเงินไม่ใช้ช่องทาง กกต. เพราะกลุ่มสีแดงคอนโทรลไม่ได้ จึงใช้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญา ความผิดฐานอั้งยี่และฟอกเงิน แล้วยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพิกถอนสิทธิ และหากเพิกถอนสิทธิ์สว.สีน้ำเงินจำนวน 138 คน ก็จะเลื่อน สว.สำรอง ซึ่งไม่ใช่ สว.สีน้ำเงินขึ้นมาแทน โดยมีรายงานว่า กลุ่มสีแดง ส่งคนไปซื้อ สว.สำรองไว้แล้ว เป็นแผนการ สลายป้อมค่ายกลุ่มสีน้ำเงิน อย่างเป็นระบบ จะทำให้กลุ่มสีน้ำเงินสิ้นฤทธิ์ในที่สุด หากในกรณี 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรงที่เข้าชื่อแก้ไข ป.อาญา ม.112 และสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่่ก่อนเสนอศาลฎีกาชี้ขาด ทำให้ สส.พรรคประชาชนหายไป 25 คน จะทำให้ฝ่ายค้านเหลือ สส. 147 เสียง หากรวมกับภูมิใจไทยจะมี สส. 216 เสียง ขณะที่่รัฐบาลจะเหลือ สส. 252 เสียง ยังมากกว่าฝ่ายค้าน จาก สส.ทั้งหมดตอนนี้ 493 คน
หากเหตุการณ์พลิกผันไปเป็นเช่นนั้น ดุลอำนาจการเมืองจะเปลี่ยนไป !! นาย ณรงค์ศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
(อดีต รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์)