สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ ผมเชื่อว่า ไม่ได้กลัวการตรวจสอบที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลัวหน่วยงานที่ใช้อำนาจบิดเบือนข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจสมาชิกวุฒิสภาแห่งนี้ว่าเป็นสภาอั้งยี่ ซ่องโจร พวกท่านทุกคนถูกกล่าวหาแล้วนะครับว่า เราคือโจร ท่านประธานก็คือ ประธานโจร ขออนุญาตถอนก็ได้ครับ เผื่อใครจะประท้วง
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) การประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 มีการพิจารณา ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย เสนอญัตติโดย พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยที่ประชุมได้เปิดให้ สว.อภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงการดำเนินคดีการเลือกตั้ง สว.ปี 2567 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่มี พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ เป็นอธิบดีดีเอสไอ และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกำกับดีเอสไอ ก่อนที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานจะประชุมเพื่อพิจารณาและลงมติว่าจะรับ ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในวันที่ 6 มีนาคม 2568
ตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรงและยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งในโอกาสต่อไป และพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของพันตำรวจตรี ยุทธนา เป็นการทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”@ ไม่มีกฎหมาย-ไม่มีอำนาจพันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ สว. ผู้ร่วมอภิปรายญัตติ : รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใดขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม“สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน ตามหลักไม่มีอำนาจไม่มีกฎหมาย ไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ”เสาหลักทางกฎหมายมหาชนมีสองเสา คือ หลักนิติรัฐ หลักประชาธิปไตย การทำงานต้องคำนึงถึงความถูกต้องตามกฎหมาย ความชอบธรรม การอำนวยความยุติธรรมให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลว่าการทำงานเช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อประโยชน์ของผู้ใด อย่าเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติมาแลกกับบุญคุณส่วนตัว ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตนและกับประโยชน์ของประเทศชาติ“ความเห็นของคณะอนุกรรมการคดีพิเศษเป็นความเห็นเบื้องต้น การกระทำต้องชอบด้วยกฎหมายคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือใครก็ตามที่เป็นองค์อำนาจ ต้องวางตัวเป็นกลาง ต้องฟังข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและรอบด้าน ใช้หลักฟังความทั้งสองฝ่าย”@ ‘หลุมดำ’ ในกระทรวงยุติธรรมไม่มีกฎหมาย ไม่มีอำนาจ หมายความว่า ฝ่ายปกครองทำการใด ๆ ที่มีผลต่อการจำกัดหรือกระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจ ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การที่กฎหมายลำดับรอง ชั้นต่ำกว่า ไม่เคารพกฎหมายชั้นที่สูงกว่า คือ ปรากฎการณ์ที่ทั้งสองขัดแย้งกัน หรือวิวาทกันเอง องค์กรตุลาการจึงต้องเข้ามายุติข้อพิพาท แต่ปัจจุบันนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดให้องค์กรอิสระเป็นผู้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ“ต้องการชี้ให้เห็นว่า การใช้หลักกฎหมายในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ปัจจุบันเป็นการใช้กฎหมายที่บิดผัน บิดเบือนอำนาจ ฉ้อฉลหลักกฎหมายโดยสิ้นเชิง จึงเกิดเป็นกรณีหลุมดำขึ้นในกระทรวงยุติธรรม”
ดีเอสไอมีการสถาปนาขึ้นในปี 2547 เรื่องมีหรือไม่มีอำนาจ วิญญูชนพึงเข้าใจได้ว่า การกระทำหรือการปฏิบัติหน้าที่ของรมว.ยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ ได้กระทำไปโดยมีอำนาจหรือไม่ การอภิปรายในวันนี้มีวัตถุประสงค์ชี้ให้เห็นว่า สามเสาหลักในระบอบประชาธิปไตย วุฒิสภาเป็นหนึ่งในองค์กรนิติบัญญัติ พ.ร.บ.คดีพิเศษ มีศักดิ์ต่ำกว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.@ อิทธิฤทธิยักษ์ในตะเกียงวิเศษถ้าหากดูบริบทของคณะกรรมการคดีพิเศษ พยายามทำคดีอาญาทั่วไปให้เป็นคดีพิเศษด้วยการครอบงำทางการเมือง เพราะมีบุคคลที่เป็นกรรมการมาจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซงหรือครอบงำการทำงานของดีเอสไอหรือไม่“ดีเอสไอใช้กฎหมายตามอำเภอใจและบิดผันอำนาจมาตลอดตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบัน เพราะผู้ที่เป็นพ่อมดในตะเกียงวิเศษ ซึ่งไม่รู้ฝ่ายการเมืองท่านไหนปล่อยยักษ์ตัวนี้ออกมา อิทธิฤทธิ์ของยักษ์ตัวนี้ที่ออกมาจากตะเกียงไม่สามารถต้านทานได้ และยักษ์ตัวนี้ก็กำลังโลดแล่น ทำให้พี่น้องประชาชนอกสั่นขวัญแขวน ความเสมอภาค ความเท่าเทียมเป็นแค่นามธรรมเท่านั้นเอง คนที่ปล่อยยักษ์ตัวนี้ออกมาต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะดีเอสไอต้องรับผิดชอบ เพราะกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดมาตั้งแต่ต้น”ขอยืนยันว่า ความเห็นของคณะอนุกรรมการฯคดีพิเศษ เป็นความเห็นเบื้องต้น คณะกรรมการคดีพิเศษ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย แต่ถ้าท่านเห็นด้วย ท่านต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน@ ถูกกล่าวหา ‘สภาอั้งยี่-ซ่องโจร’พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ผู้ร่วมอภิปราย : วันนี้เป็นวันที่ทำให้รู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรมที่นำโดยพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทำให้รู้สึกหมดศรัทธากระบวนการยุติธรรม“สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ ผมเชื่อว่า ไม่ได้กลัวการตรวจสอบที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลัวหน่วยงานที่ใช้อำนาจบิดเบือนข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจสมาชิกวุฒิสภาแห่งนี้ว่าเป็นสภาอั้งยี่ ซ่องโจร พวกท่านทุกคนถูกกล่าวหาแล้วนะครับว่า เราคือโจร ท่านประธานก็คือ ประธานโจร ขออนุญาตถอนก็ได้ครับ เผื่อใครจะประท้วง”
อำนาจบริหารกำลังแทรกแซงอำนาจองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเรื่องการเลือกตั้ง
“วันนี้ประชาชนเข้าใจเราผิดไปอย่างรุนแรง”
การอ้างว่า การเลือก สว.เป็นการฮั้ว เป็นการกล่าวหาสมาชิกวุฒิสภาแห่งนี้ โดยไม่มีการอ้างอิงหลักกฎหมายใด ๆ รวมถึงหลักคณิตศาสตร์ ผู้กล่าวหามีเจตนาต้องการให้ผู้ถูกกล่าวหาตกเป็นจำเลยของสังคม และการที่บอร์ดดีเอสไอขอเลื่อนการลงมติว่าจะรับเป็นคดีพิเศษจากวันที่ 25 ก.พ.68 ซึ่งครบองค์ประชุมสองในสาม คือ 19 คน จากทั้งหมด 22 คน แล้วเลื่อนไปวันที่ 26 มี.ค.68 โดยอ้างว่าจะเชิญกกต.มาชี้แจง
“ผมถามว่า เป็นการประวิงเวลาหรือไม่ เพื่อให้ตัวเองไปล็อบบี้กรรมการเพื่อให้มาโหวตรับเป็นคดีพิเศษ คำว่าล็อบบี้ในที่นี้ ท่านกำลังฮั้วกันหรือเปล่า”
@ เร่งร้อน-เลื่อนลอย
พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา สว.ผู้ร่วมอภิปราย : ตนเป็นหนึ่งใน สว.หลาย ๆ คนที่ยอมรับไม่ได้กับการให้สัมภาษณ์ของพันตำรวจเอก ทวี ที่ออกมาให้ข่าวว่า สมาชิกวุฒิสภามีพฤติการณ์เป็นอั้งยี่ กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมทั้งพ.ร.บ.ฟอกเงิน
“การเลือกตั้ง กกต.เป็นผู้ที่มีหน้าที่และอำนาจในการดูแลและการควบคุมดำเนินการให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ให้ถูกแทรกแซงทางการเมือง ตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. พ.ศ.2561 มาตรา 77 มาตรา 79 และมาตรา 81 ซึ่งได้กำหนดทั้งฐานความผิดและบทลงโทษ”
ผู้ที่มีอำนาจและหน้าที่โดยตรง คือ กกต. มีฐานความผิด มีโทษในการจำคุกไว้ครบถ้วนแล้ว ทั้งเรื่องการฮั้วและการฟอกเงิน และกกต.อยู่ระหว่างดำเนินการสำหรับดีเอสไอที่มาใช้ประมวลกฎหมายอาญาขึ้นมากล่าวอ้าง กล่าวหา รวมทั้งได้ให้สัมภาษณ์ให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศเข้าใจผิด ดูถูกเหยียดหยาม เสียหาย เป็นการชี้นำ หรือทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกใช่หรือไม่“ทำไม รมว.ยุติธรรมถึงได้เร่งร้อนออกมา ไม่ว่าจะการให้สัมภาษณ์ หรือนำเข้า กคพ.ก็ตาม เร่งร้อนเกินไป และขณะนี้นำเข้าคณะอนุฯคดีพิเศษดำเนินการก่อน เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย เช่น ใส่เสื้อเหลืองเหมือนกัน”