จาก Acapulco ถึงอนาคตประเทศไทย
ในวันที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ ณ จุดต่ำที่สุดใน 5 ปี
ผมเกิดทันความดังของเมือง Acapulco ใน Mexico
1 ในเมืองตากอากาศชายทะเลที่โด่งดังที่สุดในโลกในยุค 60-2000
ในยุคของ Acapulco นั้น พัทยา ภูเก็ต ชิดซ้าย
Acapulco คือ global destination ในวันนั้น
เคยมีคนเตือนรัฐบาล Mexico ว่า จะพึ่งแต่รายได้การท่องเที่ยว และประกอบรถขายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพัฒนาคนในชาติ และสร้างอุตสาหกรรมมูลค่าสูงๆในประเทศด้วย
แต่ ไม่มีใครในสภาฟัง
ในวันนั้นนักการเมืองพูดกันถึงแต่ “จำนวนหัว” และ “ตัวเลขการท่องเที่ยว” ที่ติดท็อป 5 ของโลก ใหญ่กว่าการท่องเที่ยวไทยหลายเท่าตัว
จนเริ่มมีแนวคิดเปิด Casino
แล้วก็เปิดสำเร็จ การพนันท่วม คุมไม่อยู่ มาเฟียฟอกเงินซื้อตัวผู้ว่าเมือง
เหล้า เบียร์ ขายดี
ตามด้วยค้าประเวณีเฟื่องสุข
และ เดาไม่ยาก ยาเสพติดพุ่ง
นักการเมือง และข้าราชการ Mexico สนุกกับ “easy money” จากการท่องเที่ยว สัมปทานบ่อน ฟอกเงิน เอาที่ดินผิดกฏหมายมาทำท่องเที่ยวอยู่นับสิบๆปี
ประชาชนอ่อนแอลงเรื่อยๆ การศึกษาตกต่ำ
สิ่งที่ประชาชนทำได้ คือไปเป็นพนักงานโรงแรม ไม่ก็เปิดร้านขายเหล้าริมถนน กับจั่วไพ่ในโรงแรม
ผู้มีอิทธิพลก็แผ่ขยายอำนาจโดยใช้ความอ่อนแอประชาชนนี่แหละเป็นฐานเสียง
แล้ว Mexico ก็เริ่มมีนักการเมืองที่มีประวัติค้ายาเข้ามาร่วมใน ครม.
ตอนแรกก็มีการต่อต้าน
ก็เกิดการซื้อสื่อ ซื้อศาล ซื้อข้าราชการ จนเรื่องเงียบทุกครั้ง
จากนั้นปริมาณนักการเมืองค้ายา ตัดป่า ฟอกเงิน ก็เข้ามาท่วมสภา
จนวันนี้หมดหนทางแก้ปัญหา
ไทย และ Mexico มีเรื่องราวตรงกันราวกับแกะจนน่าตกใจ
พล็อตเหมือนกันเด้ะ
Acapulco กลายเป็นเมืองแห่งการค้ายา ค้ามนุษย์ ฆาตกรรม
ต้องตั้งกองกำลังทหารในนั้น แต่ก็คุมไม่อยู่
นักท่องเที่ยวต่อปีวันนี้เหลือราวๆ 5% ของจุด peak
กลายเป็น dead city เพราะเกิดสถิติฆาตกรรมสูงเกือบที่สุดใน Mexico
ก็เพราะรัฐบาลตลอด 40-50 ปีที่ผ่านมา มัวแต่ผลักประชาชนไปเป็นแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยว พนัน เพศพานิชย์ จนถึงยาเสพติด
นักการเมืองใหญ่ประวัติค้ายา ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ เดินกันเปิดเผย
เมืองก็พังแบบที่เดาได้แต่แรก
เหมือนหุ้นไทยวันนี้หละครับ
วิจัยไม่มี การศึกษาไม่รอด อุตสาหกรรมใหม่ไม่เหลือ
จำที่ผมเคยโพสต์ปีที่แล้วว่าหุ้นไทยจะเหลือ 950-1,150 จุดดีๆ
จาก Acapulco ถึงอนาคตไทย
และตลาดหุ้นไทย
มันจึงเชื่อมกันแบบนี้
ไม่แก้ ก็ไม่รอด
ดูเอาไว้ครับ
: Pongprom Yamarat