พลเอกกิตติ รัตนฉายา อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึง
การปฏิรูปประเทศ ไทยในยามนี้ ถ้าไม่ปราบมารให้หมดไปหรือให้สามารถควบคุมมันได้จริง…ระบบอะไรก็ล่มสลาย เพราะคนเท่านั้นที่ทำให้ชาติมั่นคง..ส่วนระบบนั้นเอื้อให้คนอยากทำดีสร้างประโยชน์ได้..
จากประสบการณ์ “คน” เป็นปัจจัยอันดับ 1 ส่วนเรื่องระบบ วิธีการบริหาร เเละสารพัดกลยุทธก็สำคัญเเต่ระบบหรือกรณีของประเทศ ไทย ..เเก้ความโลภเเละความชั่วร้ายส่วนตัวไม่ได้..ก็ไปไม่รอดครับ..เราเลือกใช้พญามารมาปราบมารเเต่พญามารละความโลภเเละความขั่วร้ายไม่ได้อย่างที่เห็นเพราะวางเเผนไม่รัดกุม.. ชาติจึงล่มจม..ทั้งๆที่เป็นกลยุทธที่ลึกซึ้ง.. เพียงเเต่ไม่ครบจบในวงจรครับ
ความคิดเห็นของคุณสะท้อนถึงประเด็นสำคัญของการปฏิรูปประเทศไทย นั่นคือ การให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนประเทศ นอกเหนือจากระบบและกลไกต่างๆ ที่มีอยู่
ประเด็นที่คุณกล่าวถึงสามารถสรุปได้ดังนี้:
ความสำคัญของ “คน”: คุณเน้นย้ำว่า “คน” เป็นปัจจัยอันดับหนึ่งในการสร้างความมั่นคงของชาติ ระบบที่ดีจะเอื้อให้คนดีได้แสดงศักยภาพและสร้างประโยชน์ แต่หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความโลภและความชั่วร้ายส่วนบุคคลได้ ระบบใดๆ ก็อาจล้มเหลว
การใช้ “พญามารปราบมาร”:
กล่าวถึงกลยุทธ์การใช้บุคคลที่มีอำนาจ (เปรียบเสมือน “พญามาร”) เพื่อจัดการกับปัญหา แต่หากบุคคลนั้นไม่สามารถละทิ้งความโลภและความชั่วร้ายได้ กลยุทธ์นั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ การวางแผนไม่รัดกุม ทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศ ความจำเป็นของการควบคุมความโลภและความชั่วร้าย คุณชี้ให้เห็นว่าความโลภและความชั่วร้ายส่วนบุคคลเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
การปฏิรูปที่แท้จริงต้องสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความคิดเห็นของคุณสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าการปฏิรูปประเทศไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากละเลยการพัฒนาด้านคุณธรรมและจริยธรรมของคนในสังคม การสร้างระบบที่ดีจึงต้องควบคู่ไปกับการสร้างคนดี เพื่อให้ประเทศชาติพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องและยั่งยืน
ประเด็นที่กล่าวมานั้นเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในประเทศไทย โดยเฉพาะในการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งมีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว