ข่าวประจำวัน » ไทยน่าวิตก !! ศูนย์กสิกรชี้ สงครามการค้าจะซ้ำเติมหนัก ทำGDP ร่วงเหลือ 2.4%เท่านั้น

ไทยน่าวิตก !! ศูนย์กสิกรชี้ สงครามการค้าจะซ้ำเติมหนัก ทำGDP ร่วงเหลือ 2.4%เท่านั้น

22 March 2025
50   0

วิจัยกสิกรไทย หวั่นสงครามการค้าฉุดจีดีพีไทยปีนี้ต่ำกว่า2.4%น.ส.ณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการจีดีพีปี 2568 เติบโตที่ 2.4% แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้า อาจส่งผลกระทบมากกว่าที่ประเมินไว้ และอาจทำให้การขยายตัวของจีดีพีปี 2568 ที่มีโอกาสเติบโตต่ำกว่าคาดได้ แต่จะไม่ลดลงไปต่ำกว่า 2.0%“การประมาณการจีดีพี 2.4% ได้รวมผลกระทบมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เพิ่มขึ้นอีก 10% ไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อจีดีพีที่ 0.3% แต่หากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 25% คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 0.6%“นอกจากนี้มองว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 2568 แทบจะไม่เติบโตเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส จากผลกระทบสงครามการค้า ปัจจัยฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และแรงส่งทางเศรษฐกิจลดลงน.ส.เกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ฉุดการผลิตอุตสาหกรรมไทย ให้เสี่ยงหดตัวประมาณ 1% ในปีนี้ โดยผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จะได้รับผลกระทบทางตรงจากการขึ้นภาษี และคำสั่งซื้อที่ลดลงของสหรัฐฯ เนื่องจากพึ่งพาสหรัฐฯ ในฐานะตลาดส่งออกสำคัญ

ส่วนรถยนต์ เหล็ก อะลูมิเนียม ถูกกระทบทางอ้อมจากการแข่งขันที่รุนแรงท่ามกลางเศรษฐกิจหลักในโลกที่ชะลอลง สิ่งที่ตามมาคือ แรงงานในภาคการผลิตที่ทักษะต่ำจะมีความเสี่ยงด้านรายได้ โดยโรงงานอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์เริ่มมีสัญญาณการปิดตัวเพิ่มขึ้นและเป็นขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งสถานการณ์คงจะท้าทายมากขึ้นอีกเมื่อสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีReciprocal Tariffในต้นเดือนเม.ย.นี้“ในช่วง 2 เดือนปี 2568 ที่ผ่านมา เริ่มเห็นโรงงานในกลุ่มการผลิต เช่นอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ ปิดตัวเพิ่มขึ้น โดยเริ่มเห็นการปิดโรงงานในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนที่เกิน 100ล้านบาท จากเดิมการปิดโรงงานส่วนใหญ่จำกัดอยู่เฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 2 ล้านบาท“

นอกจากนี้ ไทยคงคาดหวังแรงส่งจากการท่องเที่ยวได้ไม่มากเท่าปีก่อน หลังจำนวนนักท่องเที่ยว 2 ชาติหลัก อย่าง จีน และมาเลเซียลดต่ำลง อีกทั้งการแข่งขันกันดึงนักท่องเที่ยวและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทำให้การฟื้นตัวของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยกลับไปสู่ระดับก่อนโควิดหรือมากกว่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายน.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังเป็นขาลงทั้งในและต่างประเทศ ส่วนสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว แต่ส่วนหนึ่งเป็นการย้ายมาจากตลาดตราสารหนี้ ทำให้ทั้งปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองว่าสินเชื่อจะโตไม่สูงที่ 0.6% โดยสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์น่าจะยังหดตัว สอดคล้องกับสถานการณ์ธุรกิจและอำนาจซื้อที่ไม่แน่นอน ขณะที่มองว่ามาตรการ LTV ที่เพิ่งผ่อนคลายจะทำให้ประมาณการสินเชื่อบ้านปีนี้โตเพิ่มขึ้นได้อีก 0.1-0.2% จากประมาณการเดิมที่ 0.5%