ข่าวประจำวัน » ดีลปีศาจร้าย ! รอมฎอน ซัดแม้ว-อิ๊ง ทำไฟใต้คุ จนเกิดลูกผีลูกคน

ดีลปีศาจร้าย ! รอมฎอน ซัดแม้ว-อิ๊ง ทำไฟใต้คุ จนเกิดลูกผีลูกคน

26 March 2025
94   0

ผู้สื่อข่าวไทยโพสต์รายงาน…

25 มี.ค. 2568- เวลา 01.30 น. กลางดึกที่ผ่านมา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ว่า

ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตยทำให้ตนไม่สามารถไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เพราะนอกจากประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพที่เธอ คนของเธอ บิดาของเธอ หรือใครก็แล้วแต่ตัดสินใจแลกมันไปเหมือนกับที่ปัตตานี เราก็เห็นภาพของการแลกมันไป แทนที่จะบรรลุถึงสันติภาพ ยุติความรุนแรงให้ความปลอดภัยกับประชาชน มีพื้นที่ทางการเมืองเพิ่มขึ้นฉะนั้น ตนจึงขอกล่าวหาว่า น.ส.แพทองธาร ไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ขาดภาวะผู้นำอย่างร้ายแรง ขาดวุฒิภาวะอย่างร้ายกาจ

ที่สำคัญคือขาดความรู้ความสามารถในการที่จะดำรงตำแหน่งที่สำคัญตำแหน่งนี้ได้อีกต่อไป นอกจากนั้น ยังขาดเจตจำนงที่แน่วแน่มั่นคงในการบริหารราชการ และยังทำให้เสียโอกาสของประเทศในด้านต่างๆ ไม่แยแสต่อปัญหาที่ประชาชนเผชิญ ไม่แน่วแน่เด็ดเดี่ยวที่จะทำให้รัฐบาลพลเรือนมีบทบาทนำในการแก้ปัญหาสำคัญของชาติ ต้องเกรงใจบรรดาอำนาจมืดและกองทัพต่างๆ ที่ทำให้การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดนภาคใต้ต้องหยุดชะงัก

ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญและเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี แม้จะผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว และปัญหานี้ก็เกิดในสมัยของคุณพ่อท่านนายกฯทั้งนี้ มีความพยายามที่จะมอบความไว้วางใจให้คนของตระกูลชินวัตรแก้ปัญหาเรื่องนี้มาหลายรุ่นแล้ว จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร โดยในรุ่นลูกก็ไม่ได้มีการแยแสและใส่ใจมากพอ ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีแนวโน้มความรุนแรงหวนกลับมาคืนอีกครั้งในช่วงปี 2567 ในรัฐบาลชุดนี้ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

โดยใน 22 ปีงบประมาณนี้ เราใช้งบประมาณไปแล้ว 5.6 แสนล้านบาท ย้ำว่าสิ่งที่นายกฯ กำลังทำอยู่นี้ทำให้แนวโน้มความรุนแรงหวนกลับมา จะทำให้ผู้คนในพื้นที่ภาคใต้รู้สึกไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นนายรอมฎอน กล่าวยืนยันว่า เราต้องใช้การเมืองนำการทหาร แต่ต้องเป็นการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยนำ ไม่ใช่การเมืองนำการทหารเหมือนที่เคยใช้ในอดีต ฉะนั้น จึงต้องการความมุ่งมั่นและความตั้งใจ ความกล้าหาญของรัฐบาลพลเรือนที่จะริเริ่มเพื่อที่จะปูหนทางไปสู่การหาทางออกจริงๆ โดยเราต้องดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายแทนที่จะไปปราบหรือใช้กำลัง ไปพร้อมกับการฟื้นฟูและคืนความยุติธรรม

นายรอมฎอน กล่าวอีกว่า หากอยากสร้างสันติภาพจริงๆ เราต้องอาศัยการนำที่แน่วแน่ ทั้งนี้ การจะอำนวยความยุติธรรมให้กับคดีตากใบเป็นเรื่องที่ยาก แม้เราจะใช้ทุกกลไกแล้วเพื่อทำให้โศกนาฏกรรมเหล่านั้นได้รับการยอมรับ สูญเสียเหล่านั้นได้รับการเห็นหัว เพื่อพิสูจน์ว่าประชาชนสามารถไว้วางใจอำนาจรัฐได้อยู่ อย่างไรก็ตาม

คดีตากใบถือเป็นบทเรียนว่าหากไม่มีการปลดล็อก จะทำให้มีคนที่รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก นี่จึงเป็นภารกิจที่หนักหน่วงของเราและนายกรัฐมนตรีที่จะต้องมีแนวทางการเมืองที่แน่วแน่ มั่นคง ฉีกออกไปจากวงจรความรุนแรงเหล่านี้ และเจตจำนองเหล่านั้นมีแต่นายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่จะต้องยืนกรานให้กับพวกเรานายรอมฎอน กล่าวว่า นอกจากความไม่จริงจัง ต่อการฟื้นฟูความยุติธรรมแล้ว ตนยังเห็นว่า รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนายกฯ แพทองธาร ยังอ่อนแอปลวกเปียก ยังไม่นับรวมไปสู่การปฏิรูปกองทัพ การมุ่งไปสู่การปฏิรูประบบยุติธรรมต่างๆ ที่เราไม่ได้เห็นในรัฐบาลชุดนี้ หากเปรียบเทียบกับรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทยในอดีต เราอาจจะต้องตกใจเพราะเจตจำนงของรัฐบาลรุ่นลูกนั้นลดลงอย่างน่าเหลือเชื่อ คนทำให้ตนเชื่อว่าการที่เข้าสู่อำนาจที่ต้องตระบัดสัตย์ และต้องทำดีลกับผู้มีอำนาจเหล่านั้น ต้องแลกกับการพยายามลดธงต่างๆ หรือไม่ รวมถึงการยกเลิกกฎอัยการสึกด้วย ที่เกิดขึ้นในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ซึ่งในรัฐบาลนี้ก็ยังมีการประกาศใช้อยู่อย่างต่อเนื่อง“แนวทางการเมืองแบบประชาธิปไตยเราต้องการรัฐบาลพลเรือนที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นและต้องถือธงนำในการแก้ปัญหา แต่ลูกสาวของนายทักษิณที่แทนที่จะใช้โอกาสนี้ในการไถ่บาปให้พ่อ ก็ไม่ได้ทำ แต่สภาวะลูกผีลูกคนเช่นนี้ ไม่มีใครที่จะรับผิดชอบโดยตรงเลย หรือต้องปล่อยให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก เราจะอยู่กันเช่นนี้จริงหรือ นั่นทำให้ผมไม่อาจไว้วางใจนายกฯ แพทองธารให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ อยากให้เพื่อนสมาชิกโดยเฉพาะที่มาจากชายแดนภาคใต้ให้ยกมือไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ด้วย” นายรอมฎอน กล่าว.