.
ผบ.ตร.หวั่นตำรวจกับประชาชนเอือมระอา ขอไม่ตอบโต้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หลังถูกอีกฝ่ายแจ้งม.157 ขอเอาเวลาไปคิด ทำงานเพื่อประชาชน ลุยปราบมิจฉาชีพหรือกลุ่มอาชญากร ลั่นพร้อมรับแรงกดดันหลังมีคำสั่งเด้ง ตั้งกก.สอบสีกากีเกี่ยวข้องแก๊งคอลฯ ย้ำจำเป็นต้องเด็ดขาด เพื่อกู้ภาพลักษณ์องค์กรและประเทศชาติ
.
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่า ตนทราบจากข่าวแล้ว ส่วนตัวคิดว่า อะไรที่ตัวเราเอง คิดดี ทำดี ผมคิดว่าทุกอย่างก็จะออกมาในทิศทางที่ดีเอง การที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไปแจ้งความร้องทุกข์ก็เป็นเรื่องของท่าน ตนไม่อยากไปตอบโต้ หรือทำอะไรที่ทำให้ตำรวจและประชาชน เขาเอือมระอากับเรื่องลักษณะเช่นนี้ในวงการตำรวจอีก
.
“การกล่าวโทษเช่นนี้อาจจะเป็นความคิดหรือมุมมองของท่านรองเอง ก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้ผมต้องการที่จะคิดและทำในสิ่งที่ควรทำคือ การกำหนดแผน มาตรการ ที่จะปราบปรามพวกมิจฉาชีพหรือกลุ่มอาชญากรที่กระทำผิดและกระทบต่อความเป็นอยู่ กระทบต่อความสงบเรียบร้อย กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนมากกว่า และถ้าเปิดปฏิบัติการใดๆ แล้วมีตำรวจนายใดเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน เรียกรับผลประโยชน์ ผมก็จะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่มีอย่างจริงจังและเด็ดขาด”ผบ.ตร.กล่าว
.
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงกรณีที่ได้มีคำสั่งให้ตำรวจที่มีข่าวเกี่ยวข้องพัวพัน กับการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยมีการตั้งกรรมการสอบและการให้มาปฏิบัติราชการ ว่า กรณีนี้ หากตนคิดหรือตัดสินใจที่จะทำอะไรในบางสิ่งบางอย่าง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์ หรือกระทบต่อความรู้สึกของความเป็นพี่หรือเป็นน้อง แต่ความเป็นผู้นำองค์กร ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ แต่ทุกอย่างก็อยากทำให้ตำรวจทุกคนหันหน้ามาเข้าสู่ในทิศทางของการทำงานและการปฏิบัติตัวที่ดี เพื่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ เพื่อองค์กรและความรู้สึกที่ให้ประชาชนมั่นใจและศรัทธาเรา หากการตัดสินใจในการทำอะไรลงไป ทำให้เกิดความไม่พอใจหรือมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นก็พร้อมที่จะรับสถานการณ์เช่นนั้นอยู่แล้วครับ
.
“ผมได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการบริหารบุคคล หรือ ก.ตร. แต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งนี้แล้ว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ตร. ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติ อย่างสุดความสามารถ ดังนั้นใครก็ตามที่ทำหน้าที่นี้ ผมคิดว่าต้องเสียสละ ต้องอดทน อดกลั้นหากเป็นแล้วต้องเหนื่อยครับ ถ้าไม่คิดจะเสียสละ ผมคิดว่าก็ไม่ควรเป็นตำรวจมาตั้งแต่แรกแล้ว ยังไงก็ต้องเหนื่อย ต้องเดินหน้า ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อทำให้องค์กรของเราเป็นที่ยอมรับและศรัทธาให้ได้ ในระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งอยู่ครับ “ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้าย