.
วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โพสข้อความระบุว่า
เด็ดขาด !!
.
“ผบ.ทหารสูงสุด” ร่วม เวที เสวนาวิชาการ วปอ.
ถก ปัญหา แก๊งค์คอลล์เซ็นเตอร์ -นโยบาย ซีลชายแดน -3 S
นักวิชาการ -นศ.วปอ.67
ชำแหละ เมืองบาป “ชเวโก๊กโก่-KK park-ไท้ชาง”
พร้อม มอง บทบาท จีน
“ผบ.อ็อบ”สวมบทนักวิชาการ ร่วมเสวนา
ชม รัฐบาล-สมช. เด็ดขาด
ตัดไฟ-ตัดเน็ต-ตัดน้ำมัน
ย้อนอดีต ชื่นชม “บิ๊กแอ้ด” กล้าหาญมาก ตัดสินใจแก้ปัญหาที่ต้นตอ
ยุคยาบ้า- ว้าแดง
พูดเป็นนัย “ถึงวันหนึ่งที่กองทัพจำเป็นต้องทำ มันก็ต้องทำ
ไม่อย่างนั้น ประเทศชาติจะอยู่รอดเรากำลัง แลกด้วยอนาคตของลูกหลานเรา“
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) กองบัญชาการกองทัพไทย จัด เสวนาทางวิชาการ ในหัวข้อเรื่อง “การปราบปรามอาชญากรรมตามแนวชายแดน ตามนโยบาย 3 S (Seal-Stop-Safe) ของรัฐบาล : ผลลัพธ์/ผลกระทบ และข้อเสนอแนะการดำเนินการต่อไป “ ที่กองพลทหารราบที่ 7 จ. เชียงใหม่
พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่งชุดพลเรือน ในบทบาท นักวิชาการ และอาจารย์พิเศษ ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) กองบัญชาการกองทัพไทย เดินทางมาที่ กองพลทหารราบที่7 จ.เชียงใหม่
พร้อมด้วย พลเอกชิดชนก นุชฉายา หัวหน้าคณะนายฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลเอกพงษ์เทพ แก้วไชโย ผบ.สปท.
และ นศ.วปอ.67 สักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จากนั้น ร่วมการเสวนา ที่ สโมสรยอดทัพ ในหัวข้อเรื่อง “การปราบปรามอาชญากรรมตามแนวชายแดน ตามนโยบาย 3 S (Seal-Stop-Safe) ของรัฐบาล : ผลลัพธ์/ผลกระทบ และข้อเสนอแนะการดำเนินการต่อไป”โดยมี พลตรี สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.พล.ร.7 ต้อนรับ
และมี พลโท กิตติพงษ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อย3 /ผบ.หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบยส35) และ พันเอก มีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 /รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นาย ศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางสาว เพ็ญโสม เลิศสิทธิชัย รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (นศ.วปอ.67) และ ดร.ศิรดา เขมานิฏฐาไท อาจารย์ประจำสำนักวิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเสวนา
พร้อมด้วย ผศ.ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง และนางสาว วาสนา นาน่วม ในฐานะ ตัวแทนนักศึกษา วปอ.67 หลังจากลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในการแก้ปัญหา ในพื้นที่ อ. แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รับฟังข้อมูลและความคิดเห็นจาก ฝ่ายความมั่นคง กกล.นเรศวร และ กกล.ผาเมือง และ หอการค้าจังหวัด ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ รับฟังความคิดเห็นรอบด้านและข้อมูลในเชิงลึก
โดยได้ร่วมกัน ระดมสมอง ในการแก้ ปัญหา แก๊งค์คอลล์เซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และนโยบาย ซีลชายแดน -3 S ของรัฐบาล พร้อม มอง บทบาท ของจีน ในการร่วมแก้ปัญหานี้ว่าจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืน ของ 3 ชาติไทย -จีน-เมียนมาในการแก้ปัญหาได้หรือไม่ หลังจากที่เคยมีกรณีที่เมืองเล้าก์ก่าย มาแล้วเมื่อพฤศจิกายน 2566 แต่ก็ยังมาเกิดกรณีเมืองบาป รังขอบ แก๊งค์คอลเซนเตอร์ -ค้ามนุษย์- ทุนเทา
“ ชเวโก๊กโก่-KK park-ไท้ชาง”
ในฝั่ง เมียนมา ตรงข้าม แม่สอด
จ.ตาก
พลเอกทรงวิทย์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลโดย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฝ่ายความมั่นคง และรมว. กลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ในการดำเนินการมาตรการ ตัดไฟ-ตัดเน็ต-ตัดน้ำมัน โดย พิจารณากันอย่างรอบคอบผลกระทบในทุกด้าน ซึ่งมีตนเองในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมพิจารณาอยู่ด้วย
และได้พูดคุยกับ พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาค3 ในการเตรียมรับมือสถานการณ์ของคนที่ได้รับผลกระทบและจะต้องอพยพข้ามกลับมา ทั้งหมดนี้อยู่ในการพิจารณาและเตรียมการ มาแล้ว ผู้ใหญ่ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
พลเอกทรงวิทย์ กล่าวในตอนหนึ่งด้วยว่า หากพิจารณาพื้นที่ที่กองกำลังนเรศวรและกองกำลังผาเมือง รับผิดชอบ ประมาณ 1พันกิโลเมตร แต่กำลังพลมีอยู่ประมาณ 3 พันคน จาก ผย.กกล. จนถึง พลทหาร คำนวณคร่าวๆตามพื้นที่แล้ว ทหารคนหนึ่งจะต้องรับพื้นที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ เท่าไหร่ มีกำลังเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอ ราว 1 กม. ต้องใช้ทหาร 3 คน ไป ยืนเฝ้า ห้ามหลับห้ามนอนเลย
ถ้าเอาตัวเลขมา เทียบกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจะเห็นว่าหนักหนาสาหัสมาก การสกัดกั้นทำได้ยากมาก ผมจึงอยากให้ฝ่ายการเมืองเข้าใจ
ถามว่าสามารถเอาเทคโนโลยีมาช่วยได้ไหมก็ได้ แต่ชายแดนมันไม่มีกฎระเบียบ อะไรที่แน่นอน การใช้เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนคนได้ทั้งหมด
พร้อม อยากเห็นกองทัพที่ไดนามิคมีการปรับเปลี่ยน ปรับกำลังพล ตามภัยคุกคาม มีการโยกกำลังมาช่วยในการ seal ชายแดน ในพื้นที่ ที่มีภัยคุกคามสูง
พลเอกทรงวิทย์ กล่าว ชื่นชมพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทางบกที่กล้าหาญการตัดสินใจ
”ท่านกล้าหาญมาก ในการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ผมเชื่อว่าวันหนึ่งที่กองทัพจำเป็นต้องทำ มันก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้น ประเทศชาติจะอยู่รอดเรากำลัง แลกด้วยอนาคตของลูกหลานเรา“ พลเอกทรงวิทย์ ระบุ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สิ่งที่พลเอกทรงวิทย์ ระบุ ถึงน่าจะหมายถึง ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในปี2543
นอกจากนี้ พลเอกทรงวิทย์ ยังระบุด้วยว่าบทบาทของกองทัพ จะเป็นผู้สนับสนุนกระทรวงการต่างประเทศในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับมิตรประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการใช้ความสัมพันธ์ทางการทหาร ในการช่วยเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการแก้ปัญหา เช่นฃกรณีของ เมียนมา หรือแม้แต่กรณีของอิสราเอล และฮามาส ในการช่วยเหลือตัวประกันคนไทยได้กลับบ้าน
หลังจากนั้น พลเอกทรงวิทย์ ได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมกับ นักศึกษาวปอ.67 ในการมอบทุนการศึกษา ให้นักเรียนและร่วมปลูกต้นไม้