ข่าวประจำวัน » อึ้ง ทักษิณ จะทำบิดคอย !! ยันรัฐบาลเดินหน้าไปแล้ว ใช้ชำระหนี้

อึ้ง ทักษิณ จะทำบิดคอย !! ยันรัฐบาลเดินหน้าไปแล้ว ใช้ชำระหนี้

13 January 2025
32   0

ทักษิณอยากให้กองทุน LTF กลับมา และกำลังศึกษาเพิ่ม VAT แต่ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลดภาษีนิติบุคคล

-ในงานข่าวหุ้นวันนี้ทักษิณพูดหลายประเด็นเกี่ยวกับธรรมาภิบาลบริษัทในตลาดหุ้นไทย และวิธีแก้ไขเรียกความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ

เรื่องทั้งหมดมีอะไรบ้าง ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง

-ผ่านต้นปีไปไม่กี่วัน ตลาดหุ้นไทย ถูกถล่มขาย จนล่าสุด -3.28% กลายเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นผลตอบแทน ต่ำสุดในโลก 

และเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ไลฟ์สด กับข่าวหุ้นทีวี ในหลายข้อ ซึ่งก็มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “ตลาดหุ้นไทย” สามารถสรุปเป็นประเด็นสำคัญ ๆ ได้ ดังนี้

-เริ่มที่เรื่องแรก “Trust, confidence and sentiment” เป็นเรื่องสำคัญในตลาดหุ้นไทย และตอนนี้ 3 สิ่งอ่อนแอ 

-2 เรื่องแรก Trust, Confidence พอจะนำกลับมาได้ 
-ส่วน Sentiment เป็นไปตามเศรษฐกิจหลักของโลก อย่างสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

-ปัญหาเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย ที่ต้องพัฒนามี 2 เรื่อง 

1.Corporate Governance หรือธรรมาภิบาล ตรงนี้ไทยยังแก้ปัญหาได้ช้า ต้องฝากให้กลต. ช่วยดูแลบ่อย ๆ เหมือนการตรวจสุขภาพ ไม่ใช่แค่ดูหลังจากบริษัทเข้าตลาดมาแล้ว

2.High Frequency Trading ปัจจุบันหุ่นยนต์ เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนรายย่อยเสียเปรียบโดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย ต้องมีการตรวจสอบ และควบคุม

ทางแก้คือ กระทรวงจะเพิ่มอำนาจให้กับ กลต. จัดการปัญหา.. 

-บริษัทในตลาดส่วนใหญ่เป็นธุรกิจยุคเก่า อาจต้องชักชวนบริษัทต่างชาติให้เข้ามาในตลาดหุ้น หรือ อาจจะนำธุรกิจใหม่อย่าง Entertainment Complex เข้าตลาดหุ้น

-หุ้นหลายตัวมี Valuation อยู่ในระดับต่ำ มี Price to Book และ Price to Earning ต่ำ ต้องสนับสนุนให้บริษัทซื้อหุ้นคืน คล้ายกับในประเทศญี่ปุ่น

-ให้ความสำคัญกับเรื่องสินทรัพย์ดิจิตัล กลต. ต้องเริ่มมีสายงานกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลในการระดมทุน..

-ยังอยากมีกองทุน แบบ LTF อีก เพราะส่วนใหญ่แล้ว มีแต่ Bond ธุรกิจต้องเสี่ยง ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่รวย..

-รัฐบาลกำลังทำ Sandbox การชำระเงินผ่านบิตคอยน์ ที่บริหารจัดการโดยรัฐบาล

-ที่ออกมาบอกว่าค่าไฟฟ้า 3.7 บาท ต่อหน่วย วันต่อมา หุ้นโรงไฟฟ้าร่วงยกแผง เป็นไปได้เพราะดูข้อเท็จจริงแล้ว

-ความเสี่ยงของภาคการส่งออกคือ สงครามการค้า ธุรกิจส่งออกต้องมองหาตลาดใหม่ และปรับปรุงคุณภาพสินค้าด้วย

-ต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อลดการนำเข้าสินค้าบางอย่าง เช่น อุตสาหกรรมยา ที่จะยิ่งเข้ามาช่วยเสริมการทำนโยบายสวัสดิการด้านสาธารณสุขด้วย

-รัฐบาลต้องสนับสนุน SMEs เพราะ SMEs เป็นกำลังสำคัญในภาคเศรษฐกิจไทย 

-ท่องเที่ยว ต้องเน้นเรื่องความสะดวกสบายในการเข้าออกประเทศ และความปลอดภัย เช่น การติดตั้งกล้อง AI เริ่มจากกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยกระจายไปในจังหวัดท่องเที่ยว

ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่ม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน, สถานีรถไฟฟ้า, แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น

-ตลาดหุ้นไทยอยากได้ ความเท่าเทียม สภาพคล่อง ต้องบาลานซ์ให้ดี 

-การจำนำหุ้น เป็นประเด็น Talk of the Town ทักษิณมองว่าอีกหน่อยต้องมีกฎเกณฑ์เข้มงวดกว่านี้ เช่น จำนำเกิน Trigger Point ต้องรายงาน เพราะนักลงทุนรายอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบ

-กระทรวงการคลังกำลังทำ Infrastructure Fund เพื่อเตรียมทำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดแน่ ภายในกันยายน – ตุลาคม ปีนี้

-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม มีไปลงทุนในเมืองนอก แน่นอนว่าคนลงทุน มีแต่คนอยากได้กำไร แต่อยากให้มามองหาโอกาสในประเทศไทยด้วย..

-กังวลเรื่องการ Default ของหุ้นกู้ เพราะอาจทำให้ตลาดเสียหาย ควรออกกติกาลงโทษเฉพาะผู้ทำผิด ไม่ใช่กติกาเหมารวม

-ทักษิณมองว่า ต้องหาวิธีจูงใจให้บริษัทข้ามชาติเต็มใจเสียภาษี Global Minimum Tax ให้กับไทย

”ตอนนี้กำลังพิจารณาว่า หากลดภาษีนิติบุคคล และภาษีเงินได้ส่วนบุคคล แต่เพิ่มภาษี VAT จะส่งผลดีหรือไม่ ?“

-ประเทศไทย R&D ต่ำ นักวิจัยน้อย นักวิจารณ์เยอะ ควรสนับสนุนกลุ่มนักวิจัยให้แข่งขันได้มากขึ้น

-ทักษิณมองว่าปีนี้รากฐาน ซึ่งก็คือกลุ่ม SME พัง และเรื่องนี้เป็นโจทย์ ที่ยากกว่าการฟื้นฟู ช่วงต้มยำกุ้งเสียอีก 

-Single Rule ที่ทักษิณมองว่าช่วยรีเซ็ตตลาดหุ้นไทยได้ คือ ความโปร่งใส.. 

ทั้งหมดนี้ ก็เป็นสรุปประเด็นสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไทย ที่ไม่กี่วันที่ผ่านมาปรับตัวลงมาเยอะ ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันว่าพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นไทย จะตอบรับไปในทางไหน