.
รัฐสภา 27 ก.พ.- นายกฯ เข้าสภา บอกไม่ได้บังเอิญตรงวันฝ่ายค้านยื่นซักฟอก แต่จิ้มวันตั้งแต่ปีใหม่ บอกไม่เกินคาดหมายหลังเป็นเป้าถูกอภิปรายคนเดียว ไม่กังวลกล่าวหาเป็นนั่งร้าน “ทักษิณ” มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมแจงทุกเรื่องแต่ไม่รู้จะถูกใจคำตอบหรือไม่ เชื่อพรรคร่วมไม่ลอยแพ ส่งข้อความขอความช่วยเหลือแล้ว ชี้ มือใหม่ตอบคนเดียวไม่ไหวเดี๋ยวคอแห้ง ต้องมีองครักษ์ช่วย
.
เมื่อเวลา 10.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารัฐสภา โดยได้ยกเลิกภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงเช้า เนื่องจาก ไม่มีวาระพิจารณาที่เป็นประเด็นสำคัญ โดยพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สามารถทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เลย
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเข้าสภาวันนี้ตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนทราบข่าววานนี้ (26 ก.พ.) ว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมีการวางแผนจะเข้าสภาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ซึ่งได้จิ้มวันไว้แล้วว่าจะเข้าสภาวันไหน และบังเอิญตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งต้องดูเรื่องภารกิจด้วย ไม่เช่นนั้นจะหาวันเข้าสภาไม่ได้ ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี
.
ส่วนเกินความคาดหมายหรือไม่ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่เกินความคาดหมาย เป็นสิทธิของฝ่ายค้านอยู่แล้ว ซึ่งได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้วว่าจะออกมารูปแบบนี้ ซึ่งในวันที่ไปรับประทานอาหารร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการคุยกันเพราะขณะนั้นมีรายชื่อออกมาเป็น 10 รายชื่อ ขณะที่ญัตติอภิปรายของฝ่ายค้านนั้น ยืนยันว่าสามารถตอบได้ทุกข้อ แต่อะไรที่เกี่ยวต้องกับกระทรวงไหนหรือลงรายละเอียดคงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ
เมื่อถามว่าเนื้อหาในญัตติของฝ่ายค้านระบุว่านายกรัฐมนตรีเป็นนั่งร้านให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าก็เตรียมตอบในสิ่งที่ถามมาทุกประเด็น และไม่กังวลหากจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะพูดอะไรหรือจะถามกระทบกับอะไร ถ้าเราไม่หลักยึดอย่างเช่นกฎหมายก็จะแย่ แต่ถ้าหากมีหลักยึด ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมตอบ
.
เมื่อถามว่าญัตติของฝ่ายค้านแรงเกินไปหรือไม่ เพราะกล่าวหาว่าไม่มีวุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องดูข้อมูลจริงประกอบด้วย ว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นจริงหรือไม่ แต่ก็เข้าใจเพราะพรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชนมา 8-9 ปี ไม่ได้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นอยากรู้อะไรมาก็ตอบไป
.
เมื่อถามต่อว่ามั่นใจว่าตอบได้ทุกข้อกล่าวหาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามั่นใจว่าตอบได้อยู่แล้วแต่ แต่จะชอบคำตอบหรือไม่ตนไม่ทราบ
นายกรัฐมนตรียอมรับว่าจะมีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาแน่นอน เพราะทุกคนต้องช่วยกันตอบ ตอบคนเดียวอาจจะคอแห้ง
ส่วนจะต้องมีการมอบหมายรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่มอบหมาย แต่จากที่คุยกันในวงดินเนอร์พรรคร่วมหากเกี่ยวข้องกับกระทรวงใด ตนเชื่อว่าทุกกระทรวงเขาอยากตอบแน่ เพราะเป็นผลงานของเขา แต่ทั้งหมดต้องรอหน้างานเพราะขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งมีหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่าพรรคร่วมจะไม่ปล่อยลอยแพใช้หรือไม่ หลังญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นายกฯยืนยันว่าไม่ปล่อยลอยแพ และได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้ว ว่าเป็นมือใหม่ ยังไม่เคยถูกอภิปรายมาก่อน ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจ เพราะพรรคร่วมมีโอกาสได้คุยน้อยกว่าพรรคตัวเอง แต่เมื่อได้คุยกันแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุน มีความอบอุ่น ความน่ารักจากหัวหน้าพรรคร่วมทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจมากๆ
เมื่อถามว่านายทักษิณเป็นหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์นายกฯเองเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีร้อง “โอ๊ย ไม่แล้วค่ะ ” ก่อนระบุว่าถ้านายทักษิณจะเป็นองครักษ์คงไม่ใช่เรื่องที่มาตอบคำถามในสภา แต่จะตอบคำถามเมื่อเราถามหรือขอคำแนะนำ อย่างเช่น ถ้าเป็นพ่อจะทำอย่างไร จะเดินอย่างไร เป็นการขอคำปรึกษา ซึ่งแบบนั้นให้อยู่แล้ว 100%
เมื่อถามว่าหลังฝ่ายค้านยื่นญัตตินายทักษิณให้กำลังใจอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่านายทักษิณโทรมาตั้งแต่เช้า ตนยังไม่ได้รับ และโทรกลับไปนายทักษิณไม่รับสาย วันนี้ยังไม่ได้คุยกัน จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร ส่วนจะต้องขอคำแนะนำหรือไม่เดี๋ยวจะรอดูแต่ขอกำลังใจแน่นอน
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามว่าจะไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายทักษิณหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการนัดพบกันที่บ้านพิษณุโลกในช่วงเที่ยงวันนี้(27 ก.พ.) .-316 -สำนักข่าวไทย