.
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ขอให้สอบปากคำตนเอง เพื่อเป็นพยานในคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
เนื่องจากตนเองเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการในการล้ม “บิ๊กโจ๊ก” ไม่ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอยู่ในเหตุการณ์ของขบวนการนี้ทุกขั้นตอน จึงเป็นผู้ที่รู้ทุกขั้นตอน ของการยัดข้อหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
นายอัจฉริยะกล่าวว่า คดีนี้ สืบเนื่องจากสมัยที่บิ๊กโจ๊กเป็นอดีตรอง ผบ.ตร.ได้มีการตรวจพบเส้นทางการเงิน คดีเป้รักผู้การ 140 ล้านบาท ของผู้บังคับการตำรวจไซเบอร์นายหนึ่ง มีเงินเข้าบัญชีกว่า 600 ล้านบาท จากจำนวน 14 บัญชี ต่อมาขบวนดังกล่าว เกรงว่าหากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจะโยงไปถึงระดับ ผบช.และนายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ดังนั้น ทุกคนที่กลัวผลกระทบดังกล่าวเกรงว่าหากบิ๊กโจ๊กขึ้นเป็น ผบ.ตร.ก็จะถูกไล่ออก หรือดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จึงมีการหาข้อมูลเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ที่เกี่ยวข้องกับคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก จึงมีมหากาฬเพื่อทำข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงบิ๊กโจ๊ก
ซึ่งในเรื่องนี้จะเห็นว่า มีการเลือกปฏิบัติ เพราะจากเส้นเงินเว็บพนันออนไลน์ไม่ใช่มีแค่ลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊กเท่านั้นที่รับเงิน แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี ยอมรับว่าตนตกเป็นเครื่องมือในขบวนการล้มบิ๊กโจ๊ก เพราะได้เห็นข้อมูลฝ่ายเดียว จนกระทั่งบิ๊กโจ๊กได้ประสานกับชมรมฯเพื่อขอจ้างทีมทนายโดยมีการนำข้อมูลหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง พบว่าบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และกลุ่มขบวนการล้มบิ๊กโจ๊กมีการล็อบบี้กับคณะกรรมการตัดสินวินัยฯ
ซึ่งตนมองว่า เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมไม่ทำอย่างตรงไปตรงมา จึงมองว่าหากวันนี้คณะกรรมการสอบวินัยฯได้สอบปากคำตนก็จะทำให้รับรู้ข้อมูลอีกมุมหนึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อ ผบ.ตร.และบิ๊กโจ๊ก โดยที่ทุกอย่างก็จะลดความขัดแย้งลง
.
.
ส่วนจะผิดถูกตนเองไม่ขอก้าวล่วงเรื่องวินัย จะสอบตนเองหรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจ เพราะประเด็นสำคัญในคดีอาญาอยู่ที่ผลการสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
นายอัจฉริยะยืนยันว่า ตั้งแต่ตนประกาศจับมือกับบิ๊กโจ๊ก ก็เริ่มมีขบวนการดิสเครดิตกล่าวหาว่าเป็นนักตบทรัพย์ เป็นหนี้พนัน เงินหมด จนต้องมาเป็นสุนัขรับใช้ตัวใหม่ของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง เพราะ10 กว่าปีที่ตนอยู่ในวงการไม่เคยมีคดีตบทรัพย์หรือคดีฉ้อโกง
พร้อมยืนยันว่า ตนไม่กลัวการข่มขู่หรือทำร้ายจากฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว เพราะชีวิตตนเองบั้นปลายรู้ดีว่าไม่ติดคุกก็ตาย วันนี้ต้องการคืนความเป็นธรรมให้บิ๊กโจ๊ก จะผิดหรือถูกว่าไปตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่การพลีชีพ หรือเสี่ยงชีวิตเพื่อบิ๊กโจ๊ก
ที่ผ่านมามีการกล่าวหาว่าบิ๊กโจ๊กเอาเงินจากเว็บพนัน ทั้งที่ก็มีนายตำรวจอีกหลายนาย โดยเฉพาะตำรวจสังกัดไซเบอร์เอามากกว่าบิ๊กโจ๊กหลายร้อยเท่า ซึ่งตนมีข้อมูลและรู้หมด
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมาร้องเรียนกับทางบิ๊กต่าย เพื่อให้ตรวจสอบ เกี่ยวกับการรับสายเว็บพนันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ พร้อมท้าให้นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบส่วนกลาง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและปราบขบวนการรับส่วยเว็บพนันออนไลน์ให้หมด เพราะที่ผ่านมามีการรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยอายัดบัญชี และการทำสำนวนคดีอ่อนและสั่งไม่ฟ้องคดีเป็นจำนวนมาก