ข่าวประจำวัน » วุฒิสภาท้ารบ !! นัดถกด่วนชั้น 14 กลางสภา ชี้ป่วยทิพย์

วุฒิสภาท้ารบ !! นัดถกด่วนชั้น 14 กลางสภา ชี้ป่วยทิพย์

28 February 2025
20   0

.

28 ก.พ. 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาวันอังคารที่ 4 มีนาคมนี้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้บรรจุญัตติเรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายที่มี พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเป็นแกนนำ สว.สีน้ำเงิน เป็นผู้เสนอ

โดยญัตติดังกล่าวระบุว่า กระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมา ยังขาดประสิทธิภาพ มีความล่าช้าในการดำเนินคดี อีกทั้งยังมีการแทรกแซงและครอบงำจากฝ่ายการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษ ของกระทรวงยุติธรรมโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีความผิดอาญา ที่มีความซับซ้อนหรืออาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่นคดีทุจริตคอรัปชั่น คดีฟอกเงิน การกระทำความผิดข้ามชาติ โดยในการดำเนินคดีพิเศษที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึง กระบวนการยุติธรรมที่ยังขาดประสิทธิภาพ มีการดำเนินคดีที่ล่าช้า รวมทั้งไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดรวมถึงปกป้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และประชาชนที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของสังคม ว่ากระบวนการยุติธรรมไม่อาจเป็นที่พึ่งได้ เช่นการดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทา ในข้อหายาเสพติด ฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาเป็นเวลานาน และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

.

”นอกจากนี้ ในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมยังมีปัญหา ในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ อย่างเช่นการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังในการได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเทียมกัน ซึ่งที่ผ่านมา มีการดำเนินการที่มีการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้มีการอภิปรายระดมความคิดเห็น เพื่อพิจารณาปัญหากระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายและเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อพิจารณาดำเนินการ” เนื้อหาตอนท้ายที่ระบุไว้ในญัตติ

.

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในญัตติไม่ได้มีการระบุชื่อผู้ต้องขังที่ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นว่าหมายถึงบุคคลใด แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยญัตติดังกล่าวซึ่งเป็นญัตติเพื่อขอให้รัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมวุฒิสภาเพื่อมาตอบญัตติ มี สว.ลงชื่อครบตามจำนวนคือสิบคน

.

ที่น่าสนใจพบว่า สว. ที่ร่วมลงชื่อในญัตติดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็น สว.สีน้ำเงิน ที่เป็นกลุ่มสีน้ำเงินแท้ เช่น นายพรเพิ่ม ทองศรี ประธานคณะกรรมาธิการพลังงาน วุฒิสภา พี่ชายของนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย หรือ มท.2 จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นญาติห่างๆ กับนายเนวิน ชิดชอบ , พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา , นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา, นายเอนก วีระพจนานันท์, นายวิวัฒน์ รุ่งแก้ว, นายอภิชา เศรษฐวราธร, นายชวภณ วัธนเวคิน เป็นต้น

.

ทั้งนี้ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในกรณีที่ประธานวุฒิสภาสั่งบรรจุญัตติแล้ว จะถอนชื่อหรือถอนญัตติได้ต่อเมื่อที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบ

.

อนึ่งก่อนหน้านี้ นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ได้เคยเสนอญัตติที่ขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางปฏิบัติในการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังในการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน ที่ก็คือญัตติกรณีนายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจเช่นกัน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงตอนประชุมวุฒิสภา วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา นางอังคณาได้ขอถอนญัตติดังกล่าว กลางห้องประชุมวุฒิสภา โดยให้เหตุผลว่ามีผู้ทักท้วงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงต้องตรวจสอบว่าข้อกฎหมายจำกัดอำนาจของสว.ในการอภิปรายหรือไม่ จึงขอเวลาหาข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน

.

จนทำให้ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ที่ก่อนหน้านี้อยู่กลุ่มเดียวกับนางอังคณา เช่น ดร.นันทนา นันทวโรภาส สว. ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมวุฒิสภา ไม่เห็นด้วยกับการถอนญัตติดังกล่าวที่มีการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของวุฒิสภาแล้ว และต่อมา ดร.นันทนา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อและการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า การอ้างว่าข้อมูลไม่พร้อม ทั้งที่การที่ สว.จะเสนอญัตติได้ ต้องเรียบเรียงข้อมูล หลักการและเหตุผลทั้งหมดในญัตติ เพื่อให้ประธานวุฒิสภาเห็นความสำคัญ จึงพิจารณาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ญัตติที่ไม่มีข้อมูลพอ ย่อมไม่ได้รับการบรรจุ และญัตติดังกล่าว ได้แจ้งบรรจุมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 กพ. เพื่อให้ สว.เตรียมหาข้อมูลมาอภิปราย แต่ข่าวลือเรื่องการล็อบบี้ให้ถอนญัตติก็มีมาตั้งแต่วันที่ประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง สุดท้ายก็มีการขอถอนญัตติในที่ประชุมจริงๆวิญญูชนย่อมพิจารณาได้ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ การถอนญัตตินี้ คือการปัดตกการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ต้องขังทั้งหมด เบื้องหลังคืออะไร วิญญูชนควรไปสืบหากันเอง.