.
4 มีนาคม 2568 นายปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งขอลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊ค แชร์บทความของ Josh Kurlantzick ดังนี้
.
“บทความจากเพื่อนนักวิชาการ Josh Kurlantzick เรื่องหน่วยงาน NGOs ของสหรัฐฯ โดนตัดทุน ทำให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือขบวนการประชาธิปไตยทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชีย – และไทย
A good article by Josh Kurlantzick on the cessation of funds from US NGOs which affected pro-democracy movements around the world including Asia (Thailand).”
.
สำหรับบทความดังกล่าวมีหัวข้อว่า ” Trump’s Cuts to Democracy Promotion Like the NED Already Hit Asian Organizations Hard” – การตัดงบส่งเสริมประชาธิปไตยของทรัมป์ส่งผลกระทบหนักต่อองค์กรในเอเชีย … มีรายละเอียดดังนี้
.
การตัดงบส่งเสริมประชาธิปไตยของทรัมป์ส่งผลกระทบหนักต่อองค์กรในเอเชีย
.
รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลดงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ใช้ในการส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การสนับสนุนภาคประชาสังคมและโครงการที่มุ่งเสริมสร้างหลักนิติธรรมในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลดลงอย่างมาก
.
การปรับลดงบประมาณนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) ของทรัมป์ ซึ่งเน้นลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในต่างประเทศ ขณะที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของอเมริกาเหนือสิ่งอื่นใด อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณดังกล่าวทำให้โครงการที่เคยได้รับการสนับสนุนมายาวนานจากรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องยุติหรือลดขนาดลงอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพสื่อ การสนับสนุนภาคประชาสังคม และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
.
การลดงบประมาณกระทบ “กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ” (NED)
.
หนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Endowment for Democracy – NED) ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคในสภาคองเกรสและมีบทบาทสำคัญในการให้ทุนสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมทั่วโลกที่ทำงานด้านเสรีภาพสื่อ สิทธิพลเมือง และหลักนิติธรรม
.
NED เคยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศต่าง ๆ เช่น กัมพูชาและเมียนมา โดยให้ทุนแก่โครงการที่ช่วยเหลือกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตย นักข่าวอิสระ และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณของทรัมป์ทำให้เงินทุนเหล่านี้ลดลง ส่งผลกระทบต่อการทำงานขององค์กรที่พึ่งพาเงินสนับสนุนจากสหรัฐฯ
.
แม้ว่า NED มักถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น แต่ในความเป็นจริง NED เป็นองค์กรอิสระที่ดำเนินการโดยโปร่งใสและให้ทุนแก่กลุ่มที่สนับสนุนประชาธิปไตยทั่วโลก โดยไม่จำเป็นว่ากลุ่มเหล่านั้นจะมีท่าทีสนับสนุนหรือต่อต้านสหรัฐฯ
.
ผลกระทบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.
การตัดงบของ NED และโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยอื่น ๆ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมียนมา ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารหลังการรัฐประหารในปี 2021 การลดลงของเงินทุนสนับสนุนทำให้โครงการที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและกลุ่มต่อต้านเผด็จการในเมียนมาต้องปิดตัวลงหรือจำกัดขอบเขตการทำงาน
.
นอกจากนี้ การลดงบประมาณยังส่งผลกระทบต่อสื่ออิสระที่เคยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เช่น The Irrawaddy ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อไม่กี่แห่งที่รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาอย่างตรงไปตรงมา การตัดงบประมาณทำให้สื่อนี้ต้องลดขนาดทีมงานลงและลดความสามารถในการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ
.
การทำลายองค์กรภาคประชาสังคมในไทย
.
ในประเทศไทย การลดงบประมาณส่งผลกระทบต่อองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและกัมพูชา ซึ่งมักเผชิญกับการถูกลักพาตัวหรือถูกทำร้ายข้ามพรมแดน
.
หนึ่งในองค์กรที่ได้รับผลกระทบหนักคือ Manushya Foundation ซึ่งเคยได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อดำเนินโครงการ “บ้านปลอดภัย” สำหรับนักเคลื่อนไหวที่ตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลเผด็จการในภูมิภาค หลังจากที่งบประมาณถูกตัด องค์กรนี้ต้องลดจำนวนบ้านปลอดภัยลง ทำให้ผู้ลี้ภัยทางการเมืองจำนวนมากต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
.
นอกจากนี้ การลดงบประมาณยังส่งผลกระทบต่อ โครงการสืบสวนอาชญากรรมและคอร์รัปชัน (OCCRP) ซึ่งเป็นเครือข่ายนักข่าวสืบสวนที่มีบทบาทสำคัญในการเปิดโปงคดีคอร์รัปชันและอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.
การตัดงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ทำงานด้านประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้กลุ่มที่ต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพในประเทศเผด็จการอ่อนแอลง ขณะที่ภูมิภาคนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากรัฐบาลเผด็จการและการกดขี่สิทธิของประชาชนอย่างต่อเนื่อง การลดลงของเงินทุนสนับสนุนทำให้โครงการหลายโครงการต้องปิดตัวลงหรือลดขนาดลง ส่งผลต่อเสรีภาพของประชาชนและความก้าวหน้าของประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้อย่างมีนัยสำคัญ
——————————-
แหล่งข่าว
– https://www.cfr.org/…/trumps-cuts-democracy-promotion…