ข่าวประจำวัน » พี่เต้ พบพิรุธ ฮั๊วประมูล !! เงินกองทุนประกันสังคม กว่า 5,000 ล้าน ยื่นหนังสือต่อ ‘กมธ.ปปช.สภาผู้แทนฯ

พี่เต้ พบพิรุธ ฮั๊วประมูล !! เงินกองทุนประกันสังคม กว่า 5,000 ล้าน ยื่นหนังสือต่อ ‘กมธ.ปปช.สภาผู้แทนฯ

6 March 2025
28   0

.

‘มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตฯ’ ยื่นหนังสือต่อ ‘กมธ.ปปช.สภาผู้แทนฯ ’ ร้องตรวจสอบข้าราชการ นักการเมือง ส่อทุจริต กรณีมีการอนุมัติเงินจากกองทุนประกันสังคม 5,000 ล้านบาท หลังพบเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนเพียง 2 – 3 บริษัท หมุนเวียนสลับกันดำเนินการประมูลทั้ง 29 โครงการ ในช่วงปี 2564 – 2566

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์  ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้ยื่นหนังสือถึง นายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้าราชการ นักการเมือง ส่อทุจริต กรณีมีการอนุมัติเงินจากกองทุนประกันสังคม เป็นเงินประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี พ.ศ 2564 - 2566 โดยมีการนำเงินกองทุนประกันสังคมไป มาจัดซื้อจัดจ้างงานด้าน IT ทั้งหมด 29 โครงการ โดยมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนเพียง 2 – 3 บริษัท หมุนเวียนสลับกันเป็นคู่เทียบจัดทำราคากลาง และ สลับกันเป็นผู้ชนะการประกวดราคา หรือ ใช้กิจการรร่วมค้า เข้าชนะการประกวดราคา มาโดยตลอด โดยมีผู้บริหารระดับสูงฯ คอยให้การสนับสนุน โดยมี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ เป็นผู้ร่วมรับหนังสือ 
   โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ทางมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นได้ติดตามตรวจสอบการทุจริต และ การจัดซื้อจัดจ้างเฉพาะงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ งาน IT ของสำนักงานประกันสังคม ที่มีอดีตผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารในปัจจุบันหลายรายเกี่ยวข้อง โดยพบข้อพิรุธ หลายอย่างที่ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ ไม่โปร่งใสในการประกวดราคา มีการล็อกสเปกหรือไม่ มีการจัดฮั้วทำราคากลางสูงเกินไปหรือไม่ มีสืบราคากลางจากบริษัทเดิมๆ ชื่อเดิม กลุ่มเดิม และ สุดท้ายผู้ชนะการประกวดราคาก็เป็นบริษัทหน้าเดิมๆ กลุ่มเดิมๆ ซึ่งส่อไปในทางไม่โปรงใส่ หรือส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ โดยอาจมีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานประกันสังคมคอยให้ความช่วยเหลือ และ คอยอำนวยความสะดวกสั่งการให้ได้ผู้ชนะงานตามโผที่วางไว้ หรือกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการนำเงินกองทุนประกันสังคมฯ ไปซื้อจ้างไปทั้งหมด 29  โครงการที่เป็นงานด้าน IT  ในปี พ.ศ 2564 ถึง 2566  รวมทั้งหมดเป็นเงิน   4,898 ล้านบาท 

     “จากการที่กระผมและทางมูลนิธิฯ ได้ตรวจสอบพบข้อพิรุธผิดสังเกตหลายอย่าง เช่น การขอราคากลางโดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัท AIT กับ บริษัท ไชยกาญจนคอนเซาท์ติ้ง หรือ บริษัท ทีซีเอ็ม  หรือ บริษัทลูกของทั้งสองบริษัท หรือ บริษัทในเครือข่ายที่รับจ้างช่วงงานกัน จึงเกิดข้อสงสัย เพระเหตุใดผู้ชนะการประกวดราคา โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัท AIT กับ บริษัท ไชยกาญจนคอนเซาท์ติ้ง หรือ บริษัท ทีซีเอ็ม ที่มีนายอภิชัย(จุ๊บ)   นาย ชัยทัต(บอย)  นายสมชาย(ลูกชายชื่อเล่น อาท) เป็นผู้บริหาร และมีการนำบริษัทในเครือข่ายมาเป็นผู้ชนะการประกวดราคา หรือ เข้าประมูลงาน และชนะการประมูลงานโดยเอาบริษัทลูกเข้าเป็นกิจการค้าร่วมหรือ จับมือกันในรูปกิจการร่วมค้า รวมทั้ง จากเอกสารหลักฐานทั้งหมด เชื่อมโยง และ เชื่อได้ว่า มีความตั้งใจ จงใจให้ผู้ชนะการประมูลงานทั้งหมด เป็นกลุ่ม และ เครือข่ายของ นายสมชาย (ลูกชายชื่ออาท) นาย อภิชัย(จุ๊บ)  และ นาย ชัยทัต(บอย) ที่เป็นผู้วิ่งเต้นประสานงานทุกขั้นตอนกับผู้บริหาร และ อดีตรัฐมนตรีแรงงานฯ  รวมไปถึง อดีต เลขาประกันสังคม ฯ

และปัจจุบัน แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ให้ข้อมูลว่า มีเตรียมอนุมัติอีกประมาณ ๖ โครงการเป็นเงินประมาณ สองพันล้านบาท โดย ล๊อกสเปก ให้ กลุ่มเดิม และ กลุ่มใหม่ น้องใหม่ล่าสุดคือบริษัท ในกลุ่มของลูกชาย เครือข่ายนักการเมืองชื่อดัง เพราะฉะนั้น ผมจึงนำเรื่องนี้มาร้องเรียน ต่อ ท่านประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ตรวจสอบ ผู้บริหารและ ผู้สนับสนุนให้นำเงินกองทุนฯ ออกมาใช้ และ ปล่อยให้มีการเอื้อประโยชน์ บริษัท หมุนเวียนสลับกันเป็นคู่เทียบ และ สลับ เป็นผู้ชนะการประกวดราคา มาโดยตลอด และ ขอให้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน กรรมการทีโออาร์ กรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศกระทรวงแรงงาน ผู้อำนวยการฝ่ายIT, ที่ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ในการจัดประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง ในหน่วยงานของสำนักงานประกันสังคม ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ร่วมกันมือกันฮั้วประมูล กินรวบทั้งระบบ ทำเป็นระบบเป็นขบวนการ ในหน่วยงานของสำนักงานประกันสังคม
รวมถึงขอให้ท่านตรวจสอบย้อนหลังงานที่กลุ่มเครือข่ายดังกล่าว เป็นผู้ชนะการประมูลไปนั้นส่งงานได้จริงไม่ ทราบข่าวว่า มีหลายโครงการที่ส่งงานไม่ได้ และ หลายโครงการ มีการช่วยเหลือไม่ให้ชำระค่าปรับ ซึ่งทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์อีกด้วย” นายมงคลกิตติ์กล่าว