………………######…………………………
โดย ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม
นิติศาสตร์ดุษฎีบันทิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทำหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมและเป็นอาจารย์สอบวิทยานิพนธ์ และค้นคว้าอิสระให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ในการเลือกตั้งนายก/กรรมการสภาทนายความ ผู้ที่ลงสมัครเลือกตั้งกำลังจะเดินสายกันไปทั่วประเทศ แม้แต่………มันยังยกมือไหว้จะมาเยือนถึงบ้านแล้ว และสำนักงานเพื่อนสมาชิกสภาทนายความ
ที่ผ่านมาผู้สมัคร รับปากว่า จะทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องทนายความ สภาชิกทนายความ จะได้อะไรจากการเลือกตั้งบ้าง
ได้แต่งตั้งที่ปรึกษานายก 200กว่าคน และที่ปรึกษาอนุกรรมการ
100 กว่าคน แต่ไม่ได้เงินค่าตอบแทน ที่ตั้งไว้เป็นร้อยคน ทั้งที่ปรึกษานายกและที่ปรึกษาอนุกรรมการ ทำอะไรไม่ได้เลย
นอกจากจ่ายเงินค่าบริจาคและจัดงานต่างๆ เท่านั่น
สถิติทนายความ  แบ่งเป็นทนายน้อย 12,000-15,000 คน
เป็นทนายใหญ่ 2-3 พัน คน ทนายยิ่งใหญ่ 1,000 คน ทนายยิ่งใหญ่ ชนิดพิเศษ 1,000. คน
แต่มีผู้ว่าความ ทำงานเป็นทนายว่าความจริง เพียง 2-3 หมื่นคน
ไม่นับ รวมทนายหน้าจอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์ หรือ ทนายเสียงตามสาย รวม ๆ ไม่เกิน 20,000 คน
ปี ๆ มาลงคะแนน 20,000 คน แบ่งคะแนน ซีกละ 10,000 ++ ไม่เคยมีการทำ สถิติ 
นายกใหม่ รายไหน
ก็รายนั้น ไม่เคยสนใจว่าจะมีวิวัฒนาการใด
อันจะเป็นประโยชน์ ต่อสมาชิก และเป็นตัวอย่างที่ดีกับ ราษฎรพลเมืองไทย ไม่มีการสร้างแบบอย่างที่ดี ให้เป็นวัฒนธรรมของการเลือกตั้ง ในทุกระดับ
แต่โอหัง เรียกพวกเราว่านักกฎหมาย ผู้ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
มีแต่ ใครเรียกไปกินเลี้ยง หัวเมือง ท้ายเมือง
นายกทุกทีม ที่เลี้ยง ทนายความผู้ทรงเกียรติ ไม่คำนึงถึงข้อที่ควร
ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ทนายความกล่าวคือ เมื่อเลือกตั้งเสร็จ รับรู้ได้ทันทีว่า ฝ่ายไหน ลงทุนล้างสมองทนายความด้วยเหล้า เบียร์ มากกว่ากัน
จนปัจจุบัน ทั้งสองทีมลงทุนไป ฝ่ายละไม่ต่ำกว่า 5,000,000 ถึง 10,000,000 บาท นี่ขนาดเลือกตั้ง นายก/กรรมการ ไม่มีผลตอบ แทน เป็นงบประมาณผลงาน / หรือค่าต่อตั๋วทนาย ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย
คิดง่ายๆ 2 ทีม 20 ล้าน
ค่าจัดเลือกตั้งของสภา อีก5 ล้าน รวม 25 ล้าน
ได้ นายกกรรมการใหม่ มา 33 คน
มองได้ประการเดียว ว่า น่าจะมีผลตอบแทนอย่างเดียว ที่ชัดเจนและปิดบังกันมานาน คือ ค่าลงทะเบียนเรียนสอบใหม่ เพื่อ ขอรับใบอนุญาต
มิน่า สอบยากสอบเย็นสำเร็จยาก ได้ตั๋วยากเย็นแสนเข็ญ คนนึงต้องหมดเงิน เฉพาะการสอบหลาย หมื่น ไม่รวมค่ารถ ค่าเสียเวลาหาเงินเลี้ยงลูก
แต่จะปล่อยตั๋วผ่านก็ตอนใกล้เลือกตั้ง เพื่อคะแนน แบบคณะกรรมการ รุ่นก่อนก่อนทำไว้ ไม่ต้องแก้ไขกฎระเบียบอะไรมากนะ ตรงผิดก็ไม่ต้องแก้ ตรงแย่ก็ปล่อยตามนั้น ใช้ของเดิมไปโดยไม่ต้องรับผิดชอบ
ข้อบังคับที่ใช้เป็นเรื่องที่ทำผิดกฎหมายกันชัดๆก็ยังคงอยู่ ไม่มีการแก้ไข มีไว้ให้คนที่ไม่มีโอกาสเป็นฝ่ายบริหาร นินทาให้ร้ายว่าเสวยสุขกันในห้องแอร์ หารายได้จากการ อบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง”แต่ชี้แจงไม่ได้
เพื่อนสมาชิกทนายความ ไม่เรียกร้องให้รัฐมนตรียุติธรรม “ยกเลิก”การอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง”ของสภาทนายความ ที่เป็นฐานเสียงของ นายถวัล รุยาพร กันบ้างเหรอครับ
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม