………………………#########………………………………
โดย ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม
นิติศาสตร์ดุษฎีบันทิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทำหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมและเป็นอาจารย์สอบวิทยานิพนธ์ และค้นคว้าอิสระให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ความเป็นมาสภาพปัญหา สภาทนายแถลงข่าว ว่าได้เข้าหารืออัยการสูงสุด ชี้แจงว่าในรอบสองปี ทำคดีจัดการมรดก แค่ 10% จากจำนวน 200,000 คดี พอไปดูเนื้อข่าวไม่มีข้อความตามที่อ้างว่าอัยการสูงสุดแถลงมานั้นมีเพียงรูป
อดีตเลขาสภาทนาย เคยเสนอให้ฟ้องสำนักงานอัยการสูงสุดในข้อหา”ใช้งบประมาณผิดประเภท”
เพราะคดีจัดการมรดกเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทและไม่มีข้อโต้แย้งและประชาชนที่ให้อัยการร้องขอจัดการมรดกไม่ได้ยากจนจริงๆจึงไม่เดือดร้อนจริง แต่คนอื่นๆไม่เอาด้วยกับผม ผมเข้าร่วมในการเข้าพบอัยการสูงสุดอย่างน้อย2ถึง3คน และประธานศาลฎี3ถึง4คนและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมหลายๆคนทุกครั้งที่ไป มีแต่ไปขอร้องเขา เขารับปากแล้ว เขาก็เฉยๆผมชวนพวกเราฟ้อง ผมชวนต่อต้านเขาบ้าง แต่คนอื่นๆไม่เห็นด้วย
พอมาวันนี้ใกล้เลือกตั้งออกมากะแดะ ขอเข้าพบ ไม่ได้อะไรครับ นอกจากเสียค่ากระเช้าหรือแจกันดอกไม้ ไปเปล่า ๆ ผมมองว่ามันต้องลุกขึ้นสู้…เดินชนคนพวกนี้ด้วยสติ…..
อดีตเลขาสภาทนาย เคยเสนอให้ฟ้องสำนักงานอัยการสูงสุดในข้อหา”ใช้งบประมาณผิดประเภท” เพราะคดีจัดการมรดกเป็นคดีที่ไม่
มีข้อพิพาทและไม่มีข้อโต้แย้งและประชาชนที่ให้อัยการร้องขอจัดการมรดกไม่ได้ยากจนจริงๆจึงไม่เดือดร้อนจริง แต่คนอื่นๆไม่เอาด้วยกับออตีดเลขาสภาทนายเคยเข้าร่วมในการเข้าพบ
ท่านอัยการสูงสุดอย่างน้อย2ถึง3คน และท่านประธานศาลฎี3ถึง4คนและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมหลายๆคนทุกครั้งที่ไป มีแต่ไปร้องขอเขทุกหน่วยงานรับปากแล้ว
แต่ก็เฉยๆอตีดเลขาสภาทนายความ เคยชักชวนสมาชิทนายความฟ้องและต่อต่อต้าน แต่คนอื่นๆไม่เห็นด้วย
ทนายความไม่สามารถเรียกร้อง ความเป็นธรรมในวิชาชีพทนายความ ที่ถูกหน่วยงานอื่นแย่งไปทำโดยไร้ความชอบธรรมอันจะอ้างได้ เมื่อท่านไม่รุกขึ้นต่อสู้องค์กรผู้รับผิดชอบก็ไม่ต่อสู้ ไม่สามารถเป็นปากเสียงเรียกร้อง ไม่ปกป้องวิชาชีพทนายมิให้ถูกรุกรานจากวิชาชีพอื่นได้ทนายความจึงต้องหาความชอบธรรมเพื่อปกป้องให้กับตัวเองและวิชาชีพของตัวเอง ยิ่งปัจจุบันนี้สภาทนายความมีแต่ความล้มเหลวหาที่พึ่งไม่ได้ ทนายความจึงต้องพึงตัวเองเพื่อหาคดีขอแรงจากศาลไปทำ หากไม่เรียกร้องสิทธิของทนายความคืนมา อนคตของสภาทนายความก็ไม่อาจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม