สกู๊ปข่าว » นักธุรกิจชาวไทยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟ้องบริษัทแอมเวย์ (Amway) ประเทศไทยจำกัด กับพวก เรียกธุรกิจคืน และชดใช้ค่าเสียอีก ๑๒๙,๗๗๔,๔๘๘ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสี่ร้อยแปดสิบแปดบาท) พร้อมค่าใช้จ่ายและค่าป่วยการไม่น้อยกว่าร้อยละ25 แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งและค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนตามที่ศาลกำหนดให้

นักธุรกิจชาวไทยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟ้องบริษัทแอมเวย์ (Amway) ประเทศไทยจำกัด กับพวก เรียกธุรกิจคืน และชดใช้ค่าเสียอีก ๑๒๙,๗๗๔,๔๘๘ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสี่ร้อยแปดสิบแปดบาท) พร้อมค่าใช้จ่ายและค่าป่วยการไม่น้อยกว่าร้อยละ25 แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งและค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนตามที่ศาลกำหนดให้

17 December 2024
55   0

…………………………#########…………………………………

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก นางสาว วรมน ลิ้มสมบูรณ์ โจทก์ที่ ๑ กับพวก มอบอำนาจให้นายสุกิจ พูนศรีเกษม เป็นผู้มีอำนาจฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า บริษัทแอมเวย์ (Amway) ประเทศไทย จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกเป็นจำเลยต่อศาล โดยโจทก์ทั้งสองได้กล่าวโดยสรุปโดยย่อ ว่า บริษัทแอมเวย์ (Amway) ประเทศไทย จำกัดมี นายทศพร นฐานนท์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในประเทศไทย

สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอเมริกา ภายใต้เครื่องหมายการค้าบริษัทแอมเวย์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (Amway USA) โดยมีนายสตีฟ แวน แอนเดล เป็นประธานกรรมการสำนักงานใหญ่ และนายดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัทในเครือ อัลติคอร์อิงค์ ณ เมืองเอด้า รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา

มีวัตถุประสงค์ นำเข้าสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายในประเทศไทยเกี่ยวกับการซื้อขายระหว่างประเทศ มีวัตถุประส่งในการประกอบกิจการขายส่งขายปลีกสินค้าประเภทอาหารเสริมเครื่องสำอางค์ และเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมการขายตรงไทยดำเนินธุรกิจเครือข่ายภายใต้ระบบการตลาดหลายชั้นผ่านนักธุรกิจ Amway ทั่วประเทศ

เพื่อแสวงหาผลกำไร ตามราคาที่จำเลยที่ 1 กับพวกกำหนด จะขายต่ำหรือเกินกว่าราคากำหนดไม่ได้ ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรงตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรงพ.ศ. ๒๕๔๕ และมีข้อกำหนดในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคุณสมบัติของนักธุรกิจ Amway เพื่อเลื่อนระดับให้กับนักธุรกิจ Amway มีนางสาวชนิดา สุวัตถี จำเลยที่ ๒, นายกิจธวัช ฤทธีราวี จำเลยที่ ๓ และ นางเลไล โสฬสรัตนพร จำเลยที่ ๔ ในฐานะส่วนตัวเป็นตัวแทนตัวการขอบริษัท แอมเวย์ ประเทศไทย จำกัด

นายเชวง คุณชยางกูล ในฐานะนักธุรกิจแอมเวย์ในสายงานเดียวกัน จำเลยที่ ๕ ในฐานะส่วนตัว ได้ร่วมกันใช้สิทธิอันมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง

กล่าวคือ จำเลยที่ ๑ กับพวก ได้ร่วมกันชักชวนโจทก์ทั้งสองเป็นสมาชิกบริษัท แอมเวย์ Amway แห่งประเทศไทย จำกัด
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ จนถึงปี ๒๕๕๖ หมายเลขสมาชิกเลขที่ ๑๔๙๓๓๒๙ โดยจำเลยที่ 1 กับพวก ได้โฆษณาชักชวนโจทก์ทั้งสองว่า แอมเวย์ Amway ได้มอบโอกาสแก่ผู้คนเพื่อให้มีธุรกิจเป็นของตนเอง

ในรูปแบบธุรกิจเครือข่ายได้รับการสนับสนุนด้วยนโยบายการ รับประกันความพอใจจากแอมเวย์ Amway จําหน่ายและนำเสนอผลิตภัณฑ์และให้บริการโดยตรงถึงครอบครัว เพื่อนฝูง และผู้คนที่รู้จัก อํานวยความสะดวกด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ถึงบ้าน

เป็นโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองตามแผนธุรกิจแอมเวย์ โดยจำเลยที่ 1 กับพวกรู้อยู่แล้วว่า แผนธุรกิจแอมเวย์ ขณะเกิดเหตุ เป็นแผนธุระกิจที่ผิดกฏหมาย มาโดยตลอด

ภายหลังไม่จ่ายเงินให้แก่สมาชิกตามผลงาน สมาชิกได้แจ้งความร้องทุกข์ให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวโทษดำเนินคดีกับบริษัท แอมเวย์ Amway ประเทศไทย จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกผิด พรบ แบบตรง ได้ให้การรับสารภาพต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว ได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 600000 บาท (หกแสนบาท) เพื่อระงับคดีข้อพิพาทในคดีอาญา

ดังนั้น ตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ ถึงปี ๒๕๕๖ โจทก์ทั้งสองมียอดขายให้กับจำเลยที่ 1 กับพวก เดือนละ ประมาณ ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท)

โดยมีผลงานที่ปรากฏรายได้ยอดขายรวมทั้งองค์กร ปีละไม่น้อยกว่า ๑,๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาท) หลังจากปี ๒๕๕๗ จนถึงปี ๒๕๕๘ โจทก์ทั้งสองมีรายได้จากผลงานการขายสินค้าที่จำเลยที่ ๑ กับพวกจะต้องชำระหนี้ให้แก่โจทก์ทั้งสองเป็นเงิน ๔๙,๗๔๔,๔๘๘ บาท (สี่สิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสี่ร้อยสี่สิบแปดบาทถ้วน) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจำเลยที่ ๑ กับพวก ยึดถือไว้ โดยไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ทั้งสอง และได้ยึดกิจการของโจทก์ทั้งสองตามหมายเลขสมาชิกดังกล่าวข้างต้น ไปขาย

ให้กับนายเชวงนายชยางกูล จำเลยที่ ๕ ซึ่งเป็นนักธุรกิจแอมเวย์สายงานระดับเดียวกันกับโจทก์ทั้งสอง เป็นเงิน ๘๐ ล้านบาท โดยอ้างว่าโจทก์ทั้งสองขาดต่ออายุ การเป็นสมาชิก ชึ่งแท้จริงแล้วการต่ออายุของสมาชิกที่มีผลงาน สำนักงานใหญ่ของจำเลยที่ 1 กับพวก ที่ประเทศอเมริกาภายใต้เครื่องหมายการค้าบริษัทแอมเวย์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (Amway USA) ได้ต่ออายุให้แก่โจทก์ทั้งสองโดยอัตโนมัติ และจำเลยที่ 1 กับพวก ได้สร้างเงื่อนไขขึ้นใหม่ ว่าโจทก์ทั้งสองไม่ได้แสดงเจตจำนงค์ต่ออายุสมาชิกภายในกำหนด เมื่อโจทก์นำเงินไปต่อสามชิก จำเลยที่ 1 กับพวก ก็มีหนังสือถึงโจทก์ทั้งสองไม่รับเงินค่าต่อสมาชิก อันเป็นการร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์จากสมาชิก อันมิควรได้ โดยชอบด้วยกฏหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น

โดยจำเลยที่ 1 กับพวกรู้อยู่แล้วว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายไม่เปิดช่องให้จำเลยที่ 1 กับพวกทำได้ โดยปราศจากความยินยอมจากโจทก์ทั้งสอง โดยจำเลยที่ ๑ กับพวก ได้ร่วมกันใช้สิทธิอันมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง เมื่อเงินของโจทก์ทั้งสองอยู่ที่จำเลยที่ 1 กับพวก

โจทก์ย่อมใช้สิทธิติดตามเอาคืนจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ และยังมีสิทธิเรียกให้จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าใช้จ่ายและค่าป่วยการไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งและค่าเสียหายเชิงการลงโทษ ค่าสินไหมทดแทนได้ตามที่ศาลกำหนดให้ ทั้งนี้โจทก์ทั้งสองเสียหายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

โจทก์ทั้งสองจึงขอให้จำเลยที่ ๑ กับพวกร่วมกันคืนธุรกิจให้แก่โจทก์ทั้งสอง หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้ราคาเป็นเงิน ๑๒๙,๗๗๔,๔๘๘ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสี่ร้อยแปดสิบแปดบาท)และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนถัดจากวันฟ้องเดือนละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ (สิบล้านบาท) จนกว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ทั้งสองเสร็จสิ้น พร้อมค่าใช้จ่ายและค่าป่วยการไม่น้อยกว่าร้อยละ25 แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งและค่าเสียหายในเชิงการลงโทษและค่าสินไหมทดแทนตามที่ศาลกำหนดให้ และเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ประกอบธุรกิจอาชีพด้านนี้ ให้เกิดวามยับยั้งชั่งใจมิให้กระทำในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป

ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 9.00น.