.
เจ้านายฝ่ายเหนือ เป็นคำที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดและทรงใช้คำนี้เป็นคนแรก
ต้องเรียนให้ทราบว่า เจ้านายฝ่ายเหนือ หรือเจ้าเจ็ดตนนั้น ล้วนเป็นเจ้าตั้ง
คำว่าเจ้าตั้งคือพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทรงตั้งให้เป็นเจ้านายจากสามัญชนคนธรรมดา
มูลเหตุที่ในหลวงรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงตั้งเจ้าเจ็ดตนให้ขึ้นเป็นเจ้า ก็เพราะมีความจงรักภักดีและยังสามารถปกครองหัวเมืองประเทศราชในฝ่ายล้านนาให้อยู่เย็นเป็นสุขต่างพระเนตรพระกรรณได้อีกด้วย จึงได้ทรงชุบเลี้ยงตั้งให้เป็นเจ้านาย หรือเป็นเจ้าตั้ง
บรรดาเจ้านายฝ่ายเหนือ โดยเฉพาะ สกุล ณ เชียงใหม่ จึงมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหาจักรีบรมราชวงศ์เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณตั้งให้เป็นเจ้า เพื่อปกครองหัวเมืองประเทศราช ทำให้ได้รับสิทธิและอำนาจในการปกครองบ้านเมือง ตลอดจนผลประโยชน์เช่น ค่าตอไม้หรือค่าสัมปทานป่าไม้ในเขตเมืองเหนือ อันมีมูลค่ามหาศาลแต่โบราณกาล
พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้าเชียงใหม่ ได้ถวายพระราชธิดาคือพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เป็นพระภรรยาเจ้าในพระปิยมหาราชเจ้า ก็ด้วยความจงรักภักดียิ่งต่อสยาม
เมื่อคราวอังกฤษกับพม่าพยายามชักชวนเชียงใหม่ให้ไปสังกัดในปกครองของพม่าหรืออังกฤษ พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงเขียนจดหมายกราบบังคมทูลเจ้าพ่อคือพระเจ้าอินทวิชยานนท์ว่า หากเจ้าพ่อทรงทำเช่นนั้น ก็ให้มารับศรีษะของลูก (เจ้าดารารัศมี) ที่กรุงเทพ กลับเชียงใหม่ไปได้เลย
อันแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสยามและต่อพระพุทธเจ้าหลวงของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เป็นที่สูงสุด ยอมถวายได้แม้แต่ชีวิต
การที่สยามผนวกล้านนา โดยการรวมศูนย์อำนาจ centralization ก็ค่อยกระทำอย่างละมุนละม่อม ใช้เวลาถึงสามแผ่นดิน (ร.5-ร.7) เพื่อมิให้กระทบกระเทือนเจ้านายฝ่ายเหนือมากจนเกินไป และทำไปตามความจำเป็นเพื่อรักษาเอกราช มิให้เสียดินแดน
คนล้านนาลองหลับตาจินตนาการดูเถิดว่า หากสยามไม่ผนวกล้านนา เข้าเป็นปึกแผ่น โดยการสร้างรัฐชาติ (Nation state)
วันนี้ เชียงใหม่คงเป็นแค่รัฐหนึ่งของพม่า และคงอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมือง เป็นชนกลุ่มน้อยของพม่า หาได้เป็นรัฐเอกราชไม่ หรือคนเชียงใหม่จะอยากให้เป็นเช่นนั้น
การผนวกล้านนา เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับสยาม เพื่อสร้างรัฐชาตินั้น ก็หาได้ทำให้เจ้านายฝ่ายเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาชิกแห่งสกุล ณ เชียงใหม่ มีใจออกห่างหรือไม่พอใจไม่ มิได้แปรเปลี่ยนไปจากความจงรักภักดีแห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์เลยแม้แต่น้อย
พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ทรงทำหน้าที่เชื่อมแผ่นดิน และผนวกแผ่นดิน ได้เป็นอย่างดี ด้วยใจจงรักภักดียิ่ง
ความเป็นเจ้าของเจ้านายฝ่ายเหนือ นั้นยังคงอยู่ แม้มิได้มีอำนาจปกครองดังเดิม อันเป็นความจำเป็นและการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย แต่เจ้านายฝ่ายเหนือ ก็หาได้เปลี่ยนแปลงในความจงรักภักดีไม่ ด้วยต่างทราบดีว่า เจ้านายฝ่ายเหนือ ล้วนเป็นเจ้าตั้ง พระเจ้าแผ่นดินคือในหลวงรัชกาลที่ 1 มีพระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยง และทรงตั้งให้เป็นเจ้าเพื่อให้ทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ แม้ปัจจุบันเมื่อมิได้มีภาระหน้าที่ปกครองแล้ว ก็ยังได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ทรงยกย่องอยู่เสมอ
พิธีบายศรีทูลพระขวัญ ถวายในหลวงรัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 9 เคยจัดมาแล้วสองครั้ง
ในสมัยรัชกาลที่ 7 เจ้านายฝ่ายเหนือ ลงมาฟ้อนถวายหน้าพระที่นั่ง ทูลพระขวัญด้วยพระองค์เอง
อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ กำลังจะมีพิธีบายศรีทูลพระขวัญ ในหลวงและพระราชินี
ย่อมเป็นเครื่องยืนยันความจงรักภักดี ของลูกหลานเจ้าเจ็ดตน เจ้านายฝ่ายเหนือ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณต่อเนื่องกันมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลปัจจุบันแห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ ว่ามิได้แปรผัน แต่มั่นคงมาเสมอ
ถือว่าเป็นหมุดหมายเหตุการณ์อันสำคัญ เป็นอุดมมงคลสามัคคีธรรมของแผ่นดินชาติบ้านเมือง อันน่าชื่นชมยิ่ง จึงขอบันทึกไว้