นายกฤษฎางค์ นุชจรัส ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนและศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะผู้จัดงานรำลึก 44 ปี 6 ตุลา โพสต์ข้อความระบุว่า
“ผมมีเรื่องน่าเสียใจเกี่ยวกับงานครบรอบ 44 ปี 6 ตุลา 19 ซึ่งจัดขึ้นที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในช่วงนี้แจ้งให้ทราบ
เมื่อวานนี้ผมได้รับแจ้งว่า ผู้บริหารธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้น้องเพนกวินและน้องรุ้ง ซึ่งเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ และทนายอานนท์ ซึ่งเป็นทนายสิทธิมนุษยชน มาร่วมเสวนาในงานนี้บนเวทีหอประชุมศรีบูรพาตามกำหนดที่คณะกรรมการได้เตรียมไว้
ผู้บริหารธรรมศาสตร์ให้เหตุผลสั้น ๆ ว่า ไม่สบายใจโดยไม่อธิบายอะไรแถมยังสั่งว่า หากไม่ตัดทั้งสามคนนี้ออกจะไม่ยอมให้มีการแสดงบนเวทีทั้งหมดในงานนี้
ผมต้องขอโทษต่อประชาชนและสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศทุกสาขาที่เคยแจ้งว่า เพนกวิน รุ้ง และทนายอานนท์จะมาแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ 6 ตุลาในทัศนะของคนรุ่นใหม่และการเมืองไทยในมุมมองของเยาวชน
ผมขอเสียใจที่จะแจ้งให้ทราบว่า เราจะไม่ได้ฟังคนทั้งสามพูดอีกแล้ว ในธรรมศาสตร์
ข้อความต่อไปนี้ ผมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส กรรมการจัดงานปีนี้ที่ธรรมศาสตร์แต่งตั้งขอรับผิดชอบในความเห็นที่จะแสดงต่อไป
เป็นอีกครั้งที่ทำให้เราเข้าใจทัศนะ มุมมอง ความขี้ขลาดหรือความกล้าหาญของผู้บริหาร
เราจัดงานรำลึก 6 ตุลา 19 ทุกปี เพราะเราเชื่อมั่นว่าวีรชนคนหนุ่มสาวที่เสียสละชีวิตไปในเหตุการณ์ครั้งนั้นอุทิศร่างกายของตนเพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ฆาตกรผู้ก่ออาชญากรรม ต่อพวกเขาก็เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่างออกไปจากพวกมันเท่านั้น
ที่สำคัญเราจัดงาน 6 ตุลา 19 เพราะเราเรียกร้องให้สังคมไทยในปัจจุบันรับฟังความเห็นที่แตกต่างกันมิใช่หรือ
ไม่ว่าน้องทั้งสามจะมีความคิดเห็นอย่างไรทำไมเราไม่รับฟังเขา หรือคุณกลัวที่จะฟังในสิ่งที่เขาพูด
ถ้าในทางกลับกันในงานนี้ เชิญแก้วสรร อติโพธิ หรือวรงค์ เดชกิจวิกรม มาพูดในงานนี้ผมเชื่อมั่นว่าผู้บริหารคงมีความสบายใจกระมัง
ท่านผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เมื่อคราวก่อการปฏิวิติ 2475 ก็มีความเห็นพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินใช่ไหม ในเวลานั้นท่านก็มีอายุเพียงสามสิบปีเศษ การตั้งธรรมศาสตร์ก็เพื่อเป็นหลักคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของราษฎรทั่วไปใช่หรือไม่
การสั่งห้ามน้องทั้งสาม มาพูดในงาน 6 ตุลาปีนี้ เป็นสิ่งที่ผมไม่มีทางจะรับได้
แม้ผู้บริหารอาจจะดีใจที่สามารถทำตามคำสั่งของนายได้ แต่ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้แล้ว ว่า ในวันเวลานี้ท่านได้ทำอะไรไป ท่านไม่อาจลบมันออกจากส่วนหนึ่งของงานรำลึก 6 ตุลา 19 ได้ ถ้าเปรียบก็เป็นเหมือนท็อปบู๊ตที่เหยียบย่ำไปบนร่างกายของวีรชน 6 ตุลาในวันนั้น
เรื่องในวันนี้ช่างประจวบเหมาะกับกรณีครึกโครมที่โรงเรียนอนุบาลเอกชนดัง มีครูเอาถุงขยะดำครอบหัวน้องนักเรียนเพื่อสั่งสอนให้กลัวและเชื่อในสิ่งที่ครูสั่ง
ผมนึกไม่ถึงว่าในวันที่เราจัดครบรอบ 44 ปี 6 ตุลา 19 ผู้บริหารธรรมศาสตร์ยังวิ่งไล่เอาถุงขยะดำครอบหัวนักศึกษาอยู่