ข่าวประจำวัน » นิติกรรมอำพราง !! สว.ดร.สมชาย ยกข้อกฎหมายหลักฟาดอุ๊งอิ๊ง

นิติกรรมอำพราง !! สว.ดร.สมชาย ยกข้อกฎหมายหลักฟาดอุ๊งอิ๊ง

27 March 2025
17   0

.

สว.ด๊อกเตอร์ สมชาย แสวงการ อดีต ปธ.กรรมาธิการวุฒิสภาระบุว่า

#สงครามยังไม่จบ

#นิติกรรมอำพราง#เลี่ยงภาษี

#ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

#ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้างแรง

หลังเสร็จการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วสสพรรคฝ่ายค้านควรเข้าชื่อสส 1ใน10

หรือไม่น้อยกว่า50 คน เสนอคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ แพรทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัว

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

ด้วยเหตุที่ แพรทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา160(4)ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เพราะพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจและตรวจสอบพบการกระทำของแพรทองธาร ชินวัตร ที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่อาจทำให้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ดังนี้

.

1)การทำตั๋วสัญญาการใช้เงิน (Promissory Note) ในการกู้ยืมเงินจากคนในครอบครัววงเงิน 4,434 ล้านบาท โดยไม่มีการกำหนดเวลาชำระคืนและไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเป็นการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ตั๋วสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้น ตั้งแต่ พศ2559 นานถึง9ปี แต่ไม่มีการชำระเงินและดอกเบี้ย

ไม่ระบุในสัญญาว่าจะชำระเมื่อใด อีกทั้งผู้ขายหุ้นส่วนใหญ่ ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นพี่สาว 2,388 ล้านบาท พี่ชาย 335 ล้านบาท, ลุง 1,315 ล้านบาท ป้าสะไภ้ 258 ล้านบาท ขณะที่มารดาเป็นผู้ให้หุ้นเพียง 136 ล้านบาท

จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเชื่อได้ ว่า บุคคลที่เป็นเครือญาติเหล่านั้นรีบร้อนขายหุ้น ให้ผู้รับที่ไม่พร้อมจะจ่ายเงิน และผ่านมานานถึง9ปี ยังไม่มีการชำระหนี้ใดๆ อีกเมื่อผู้ซื้อเป็นนายกรัฐมนตรี ยื่นบัญชีทรัพย์สินมีมากกว่า13,000ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ดังกล่าวได้ อาจเข้าข่าย การทำนิติกรรมอำพราง หรือหลบเลี่ยงการชำระภาษี และอาจแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ

ถือเป็นกรณีที่เป็นรัฐมนตรีมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริต และประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

.

2)การถือหุ้น เป็นกรรมการบริษัทและกรรมการบริหาร บริษัทอัลไพน์กอล์ฟแอนด์สปอร์ทคลับ ตั้งแต่ปี พศ 2544 -4 กันยายน2568 ซึ่งมีปัญหาเป็นที่ธรณีสงฆ์ เนื่องจาก เป็นที่ดินตามพินัยกรรมมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่มอบให้วัดธรรมิการามเพื่อใช้หาประโยชน์ทำนุบำรุงศาสนา เป็นที่ธรณีสงฆ์ตามคำพิพากษาและความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นที่ยุติแล้ว การครอบครองและบริหารที่ดินดังกล่าว

หาประโยชน์ กำไร จึงเป็นการหาประโยชน์มิควรได้ จากที่ดินธรณีสงฆ์อันเป็นที่ดินของรัฐดังกล่าว

เช่นเดียวกันกับที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงและตัดสิทธิทางการเมืองอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกรณีครอบครองที่ดินป่าสงวนเขาใหญ่ และคดีให้สส พ้นจากตำแหน่ง ตัดสิทธิ์การเมืองกรณีครอบครองที่ดินป่าสงวน ราชบุรี ถือเป็นบรรทัดฐาน ที่ศาลฎีกาเคยวางเรื่องการประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองไว้แล้ว

.

3)พิจารณาดูให้ชัดเจนในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง พศ 2564 ข้อ6(2)ข้าราชการการเมืองต้องยึดมั่นในกฎหมายและไม่ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย

เพื่อเอื้อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น

นายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการการเมืองที่ต้องปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม ขณะนี้เข้าข่ายต้องสงสัยว่า มีความผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองด้วยการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายอันเป็นการผิดตามประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองข้อ6(2)หรือไม่

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่พรรคฝ่ายค้านจะได้พิสูจน์ตัวเองในการทำหน้าที่อย่างแท้จริงสมศักดิ์ศรีด้วยการ ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า เรื่องการทำสัญญาตั๋วใช้เงิน PN4.4พันล้านบาท ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่า อาจเป็นนิติกรรมอำพรางหรืออาจเลี่ยงภาษี และการถือครองที่ธรณีสงฆ์ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ธรณีสงฆ์ของนายกรัฐมนตรี อาจถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายไม่สุจริตเป็นที่ประจักษ์และประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จะทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

ในฐานะผู้เคยยื่นต่อร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา

.

ขอฝากสังเกตุเชิงบวกไปยังพรรคฝ่ายค้านถึง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ26มีค68

มีมติเอกฉันท์รับคดีที่ สว รวบรวมรายชื่อยื่นร้องให้วินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรี ของนายภูมิธรรม เวชชยชัย และพตอ.ทวี สอดส่อง ไว้พิจารณา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพ.ร.ป.ว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 7 (4) ให้ผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน แต่ไม่ได้สั่งให้ผุ้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยนั้น

น่าจะเป็นโอกาสดี ที่สส พรรคฝ่ายค้าน หรือสว ไม่น้อยกว่า1ใน10ของแต่ละสภา

หรือ1ใน10ของสองสภารวมกัน จะได้เร่งดำเนินการรวบรวมรายชื่อ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในแนวทางเดียวกัน เพราะประสพการณ์ส่วนตัว เชื่อว่า ถ้าฝ่ายค้านยื่นข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายให้ชัดเจนแบบเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะมีมติรับไว้พิจารณาตามแบบทำนองเดียวกันก็ได้ครับ

ทำหน้าที่ตรวจสอบจริงจัง อย่าแค่อภิปรายเป็นวาทกรรมแล้วจบกัน

#อย่ามวยล้มต้มคนดู

สมชาย แสวงการ

อดีตสมาชิกวุฒิสภา และผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยให้

นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเพราะขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม

ตามรธน มาตรา160(4)(5)

27 มีค 2568

#อย่าปล่อยคนโกงมีที่ยืนในสังคม