เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.กทม. พรรคกล้า พร้อมคณะ เข้ายื่น 8,000 รายชื่อประชาชนที่เห็นพ้องตรงกันถึงการทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพของฝ่ายนิติบัญญัติจนนำไปสู่สภาล่มถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายพงศ์พล กล่าวว่า วันนี้เรามาเสนอเปลี่ยนข้อบังคับการประชุมด้วยการเพิ่มบทลงโทษทางวินัยกับส.ส.ที่ไม่แสดงตนทำให้เกิดสภาล่ม สืบเนื่องจากเราได้เริ่มแคมเปญนี้เมื่อสภาล่มครั้งที่ 14 ,15,16 ติดๆ กัน ซึ่งสภาล่มถึง 16 ครั้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายมูลค่า 88.6 ล้านบาท ที่เป็นภาษีของประชาชนที่เสียไปโดยเปล่าๆ
นายพงศ์พล กล่าวต่อว่า เมื่อเทียบส.ส.ก็เป็นเหมือนพนักงานทั่วไปที่รับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน แต่เมื่อขาดการแสดงตนกลับยังไม่มีบทลงโทยทางวินัยใดๆเลย ดังนั้นพวกเราจึงมาเสนอบทลงโทษทางวินัยให้กับส.ส.ที่ขาดการแสดงตน 3 แนวทางคือ 1.ตัดเงินเดือนบางส่วน ถ้าส.ส.คนไหนไม่มาแสดงตนในวันนั้นๆก็จะถูกตัดเงินเดือนในวันนั้นออกไป 2.ส.ส.ที่ไม่แสดงตนมากกว่า 25% ของสมัยประชุมสภาก็จะถูกตักเตือนด้วยใบเหลือง ซึ่งเป็นการจำกัดสิธิในการโหวต และอภิปรายใน 2 ครั้ง และ 3.การให้ใบแดงกับส.ส.ที่ไม่แสดงตนมากกว่า 50 % ซึ่งใบแดงนี้มีโทษตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.
ด้านนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีอีกตำแหน่งหนึ่งคือประธานคณะกรรมการการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร มีข้อบังคับประมวลจริยธรรมในข้อ14 ที่ระบุว่า สมาชิก และกรรมาธิการจะต้องอุทิศเวลาให้แก่การประชุมโดยเน้นคำนึกหลักการตรงต่อเวลาและไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น และตั้งข้อสังเกตว่าส.ส.มีสวัสดิการมากกว่าปุถุชน ดังนั้นจึงต้องคำนึกถึงหลักนี้เป็นสำคัญ