วันนี้ (10 พ.ย. 65) ราษฎรหยุด APEC2022 นำโดย นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ภาคีเครือข่าย อาทิ เครือข่าย กป.อพช.ทุกภาค เครือข่ายสมัชชาคนจน เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เครือข่าย P-Move เครือข่ายแรงงาน เครือข่ายโขงชีมูน เครือข่ายสลัมสี่ภาค และเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ร่วมอ่านแถลงการณ์ราษฎรหยุด APEC2022 ประยุทธ์ไร้ความชอบธรรม ไม่คู่ควรเป็นประธานเอเปค หยุดอ้างเอเปคเพื่อผลักดันนโยบายสร้างหายนะแก่ประชาชน ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT)
ใจความสำคัญของแถลงการณ์ ระบุว่า บนเวทีระดับนานาชาติที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ประยุทธ์ไร้ซึ่งความสามารถ และสง่างามที่จะเป็นตัวแทนของประเทศ รังแต่จะสร้างความอับอายและไร้ความชอบธรรมที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ประยุทธ์ได้แสดงเจตจำนงต่อสาธารธณะว่า ต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างหน้าด้าน เพื่อเป็นประธานการประชุมเอเปค ต้องการฉวยใช้ประโยชน์เวทีระดับนานาชาติ เดินตามรอยเสรีนิยมใหม่ เพื่อผลักดันนโยบายทตัวแบบการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ- เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งคือหน้าฉากที่เต็มไปด้วยคำพูดสวยหรู แต่เปิดโอกาสด้านเศรษฐกิจตามใจนายทุน ซ่อนความหายนะที่จะเกิดกับประชาชน ทั้งชาวนา แรงงาน และประชาชนทั่วไปอย่างมหาศาล กล่าวคือ
1.นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพเป็นการเปิดทางให้กับการโจรกรรมพันธุกรรม ทำให้นายทุนสามานย์ เข้ามาผูกขาดตลาดเม็ดพันธุ์และการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น GMO ได้อย่างง่ายดาย
2.นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นการเปิดทางให้กับการปลูกพืชพลังงาน และการทำโรงไฟฟ้า นำมาซึ่งการลดการปลูกพืชอาหาร เกิดปัญหาความมั่นคงทางอาหาร และปัญหาด้านมลพิษ สิ่งแวดล้อม อันเป็นอันตรายต่อประชาชนโดยรวม
3.นโยบายด้านเศรษฐกิจสีเขียว เปิดโอกาสให้รัฐผลักดันนโยบายการค้าคาร์บอนเครดิต ให้ทุนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นต้นเหตุที่แท้จริงของการปล่อยคาร์บอน ไม่ต้องถูกควบคุม แต่ผลักภาระมาที่ชาวบ้าน รัฐไล่ รื้อ แย่งชิงที่ดินของชาวบ้าน เพื่อเอาไปดูดซับคาร์บอนและค้าขายคาร์บอนเครดิตให้กับนายทุน ทำให้เกิดปัญหาความไม่เป็นธรรมในสภาพภูมิอากาศ
ในนามประชาชน พวกเรา “ราษฎรหยุด APEC” ที่รวมตัวโดยองค์กรชาวนา แรงงาน คนจน คนรากหญ้า ประชาชนที่ต่อสู้กับเผด็จการและส่งเสริมกับประชาธิปไตย จึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.พลเอกประยุทธ์ ต้องยกเลิกนโยบาย BCG กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามนำเสนอเข้าที่ประชุมเอเปครับรอง เนื่องจากเป็นแนวคิดที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนชั้นนำในประเทศ
2.พลเอกประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมที่จะลงนามข้อตกลงร่วมกับผู้นำกกลุ่มเอเปค และต้องยุติบทบาทการเป็นประธานในที่ประชุมโดยทันที
3.พลเอกประยุทธ์ ต้องยุบสภา เปิดทางให่มีการเลือกตั้ง จัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันจะทำให้ได้มาซึ่งผู้นำประเทศที่สง่างาม คู่ควรกับการเป็นเจ้าภาพในการประชุมประชาคมโลกในอนาคต
นางสาวภัสราวลี ระบุว่า ราษฎรหยุด APEC2022 จะเคลื่อนไหวลื่อนไหวระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 คู่ขนานกับการประชุมเอเปค แม้เจ้าหน้าที่จะวางกำลังไว้มากกว่า 20,000 นาย แต่ยืนยันจะเดินหน้าต่อ เพราะต้องการส่งเสียงสะท้อนไปถึงผู้นำนานาชาติ
นายจตุภัทร์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจเสนอนโยบาย BCG ให้ที่ประชุมเอเปครับรองเพื่อให้มีผลผูกพันธ์ รัฐคำนึงถึงแต่กลุ่มทุนที่มีเพียง 1% ในประเทศ หากพัฒนาเศรษฐกิจโดยให้ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วม จะเป็นวิวัฒนาการที่ดี พร้อมตั้งคำถามว่า “คนธรรมดาทั่วไป 99% อยู่ตรงไหนของการประชุมครั้งนี้”
เรื่อง : ณัฐพร สร้อยจำปา
ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์