ยิ่งกำจัดของ ทำไมถึงยิ่งประหยัด ฟังดูแล้วขัดแย้งชวนขัดใจน่าดู แต่เชื่อหรือไม่ว่าการกำจัดของที่ไม่ใช้ออกจากบ้านจะทำให้คุณเปลืองน้อยลง และใช้จ่ายน้อยลงจริงๆ มาดูกันว่าเพราะอะไร
1.เพราะคุณจะได้เห็นความจริงว่าคุณซื้ออะไรมาบ้าง
ลองเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก หรือชั้นเก็บของ แล้วเอาของทุกอย่างที่ไม่ได้ใช้ออกมาให้หมด กองข้าวของที่ไม่ใช้พวกนี้จะบอกคุณได้เลยว่าคุณใช้จ่ายไปเยอะแค่ไหนกับของที่ไม่เคยได้ใช้ เป็นการเตือนตัวเองแบบแรงๆ ถึงการซื้อของด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ความรู้สึกนี้ (รวมกับเงินที่เสียไปด้วย)จะช่วยเตือนใจคุณในคราวหน้าที่ไปช้อปปิ้งว่าอย่าวู่วามซื้อของโดยไม่คิดให้ดีเสียก่อน
2.คิดดูดีๆ พื้นที่ก็มีราคานะ
ถ้าคุณจ่ายค่าเช่าสำหรับห้องแบบสองห้องนอน แล้วห้องนอนอีกห้องที่ควรจะว่างกลับเต็มไปด้วยของรกรุงรังเต็มไปหมด ลองถามตัวเองดูซิว่า “ห้องมันเล็กไป หรือของเราเยอะไปกันแน่” คราวหน้าถ้าคุณมองหาที่อยู่ ลองคำนวณดูดีๆ ว่า จริงๆ คุณต้องการใช้พื้นที่เท่าไหร่ แล้วพยายามลดขนาดการใช้พื้นที่ลง
3.คุณอาจจะซื้อของมาซ้ำโดยไม่รู้ตัว
การมีของมากมายจนแออัด อาจจะทำให้คุณลืมว่ามีของอะไรอยู่แล้วบ้าง จนซื้อซ้ำของที่มีอยู่แล้วก็ได้ (ถ้าไม่ใช่ลืมก็อาจจะเป็นหาไม่เจอจนต้องซื้อซ้ำ อย่างเช่นกาวแท่ง ที่เก็บแล้วหาไม่เจอต้องซื้อแล้วซื้ออีก จนบางแท่งก็แห้งไปก่อนจะมีโอกาสได้ใช้หมดเสียอีก)
4.อุปกรณ์เก็บของก็ไม่ใช่ของถูก (แถมยิ่งสวยก็ยิ่งแพง)
หนึ่งในความผิดพลาดมหันต์คือเราต้องจ่ายเงินจำนวนไม่น้อย เพื่อจัดระเบียบข้าวของที่ไม่จำเป็นอะไรกับเราเลย เราหมดทั้งเวลาและเงินในการหาซื้ออุปกรณ์จัดระเบียบมาจัดเก็บของในห้อง แล้วก็ดีใจที่ได้คิดว่าทำบางอย่างที่มีประสิทธิภาพ อันที่จริงอุปกรณ์เหล่านี้ก็ไม่ต่างจากถังขยะราคาแพง ซึ่งไว้ปกปิดปัญหาที่แท้จริงว่า คุณควรจัดระเบียบข้าวของให้ดีมาตั้งแต่ต้น
5.ขยะของคนคนหนึ่ง อาจเป็นแหล่งสมบัติของอีกคนก็ได้
ถ้าคุณมีเวลาและความชอบในด้านนี้ ลองเอาของเหลือใช้ไปขายออนไลน์ในอีเบย์ หรือ เครกส์ลิสต์ (Craigslist) หรือจะเอาไปเปิดท้ายขายของดูก็ได้ ถือเป็นการกำจัดของพร้อมกับหารายได้เล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย ได้ประสบการณ์ดีอีกต่างหาก
สำนักข่าววินิวส์