วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 10.10 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กองทัพมินเนี่ยนและเพจภาคีประชาชนปกป้องสถาบันฯ และประชาชนของพระราชา และทีมนักรบองค์ดำ นำโดย น.ส.วลัญช์รัช สิทธิสวัสดิ์ พร้อม น.ส.วชิรา เอื้อดำรงสิริ และ น.ส.พยอม พิชัยรัตน์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. นำหลักฐานการโพสต์และแสดงความเห็นของข้าราชการครู ตำรวจทหารและหน่วยงานท้องถิ่น ในลักษณะหมิ่นเบื้องสูง จำนวนกว่า 50 บัญชีรายชื่อ มอบให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบและดำเนินคดีตามความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
โดย ผบก.ปอท.มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท. และ ร.ต.อ.นัฐพล ทะเลน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. รับเรื่องไว้ทำการตรวจสอบ
น.ส.วลัญช์รัช กล่าวว่า การโพสต์แสดงความคิดเห็นที่รวบรวมหลักฐานมาให้ ปอท. ตรวจสอบวันนี้มาจากสื่อในโซเชียลตามกลุ่มและเพจต่างๆ เช่น วันงานสำคัญต่างๆ พบว่ามีการโจมตีสถาบัน ส่วนใหญ่เป็น นักศึกษา ประชาชนและผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ แต่ปรากฏว่ามีอาชีพข้าราชการที่รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ได้ทำตัวเป็นปรปักษ์กับสถาบัน
น.ส.วลัญช์รัช กล่าวอีกว่า ฝากเตือนคนทำอาชีพข้าราชการที่อาจจะกระทำผิด ซึ่งมีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิควรจะคัดกรองได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด สำนึกว่าสีกากีคือสีของแผ่นดิน ท่านควรภูมิใจที่ได้รับใช้แผ่นดิน ไม่ใช่แสดงออกถึงพฤติกรรมชังชาติในกมลสันดานที่แสดงออกมาผ่านทางโซเชียลทุกช่องทาง โดยพวกท่านก็ได้มีการปฏิญาณตนไว้แล้วก่อนรับราชการ
“อยากให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยดูแลและตรวจสอบด้วยเพราะทางผู้ปกครองส่งลูกหลานไปโรงเรียนอาจได้รับข้อมูลถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่อยากให้มีการแสดงออกทางสัญลักษณ์ทางการเมือง นอกจากนี้ วันนี้หลักฐานที่นำมาผ่านการคัดกรองยืนยันตัวตนมาแล้วส่วนหนึ่ง หวังว่าขั้นตอนการทำงานจะไม่ล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา“ น.ส.วลัญช์รัช กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ร้องรวบรวมมาทั้งหมด กรณีที่เข้าข่ายกระทำผิดก็จะเสนอให้คณะกรรมการของกระทรวง ดีอีเอส พิจารณาส่งให้รัฐมนตรีส่งศาลขออนุมัติปิดกั้น และอีกส่วนที่รู้ตัวผู้กระทำก็จะส่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป