นายเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการเข้ารายงานสรุปเรื่องเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า สหรัฐฯ นั้นมีความสามารถในการป้องกันประเทศของตนเอง รวมทั้งพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยขอยืนยันว่าคำมั่นที่ได้ให้ไว้ในเรื่องนี้มีความมั่นคงแข็งแกร่งประหนึ่ง “เสริมด้วยเหล็ก”
bbc – ”ภัยคุกคามใดๆ ก็ตามที่มีต่อสหรัฐฯ หรือดินแดนของสหรัฐฯ เช่น เกาะกวม รวมทั้งภัยที่มีต่อพันธมิตรของเรา จะต้องพบกับการตอบโต้ทางทหารครั้งมโหฬาร ซึ่งจะเป็นการตอบโต้ที่ทั้งมีประสิทธิภาพ และโจมตีอย่างเต็มกำลังจากทุกด้าน” นายแมตทิสกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังหวังว่าจะสามารถปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ “เพราะเราไม่ต้องการจะทำลายประเทศที่ชื่อว่าเกาหลีเหนือลงทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง”
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในวันนี้ (4 ส.ค.) ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ประณามการทดสอบดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์และอันตรายอย่างยิ่ง
นายทรัมป์ยังชี้ว่าเกาหลีเหนือนั้นเป็น “ชาติอันธพาล” ซึ่งได้กลายมาเป็นความอับอายขายหน้าและภัยอันใหญ่หลวงต่อจีนซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ส่วนการพูดจาโน้มน้าวประนีประนอมของเกาหลีใต้ก็ไม่ได้ผล เพราะเกาหลีเหนือนั้น “รู้จักและเข้าใจอยู่เพียงสิ่งเดียว” ต่อมานายทรัมป์ยังได้ลงข้อความทางทวิตเตอร์ว่า จะหยุดทำการค้าทั้งหมดกับชาติใดก็ตามที่ร่วมคบค้าทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
ก่อนหน้านี้ นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือว่าเป็นสิ่งที่ “ให้อภัยไม่ได้” ส่วนประธานาธิบดีมุน เจ อิน ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้มีการออกมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น มาตรการคว่ำบาตรที่จะโดดเดี่ยวเกาหลีเหนืออย่างสิ้นเชิง ส่วนรัสเซียเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าเจรจากัน ซึ่งนับเป็นทางออกเดียวจากปัญหานี้
ด้านจีนแม้จะประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในครั้งนี้อย่างรุนแรง โดยว่าเกาหลีเหนือเมินเฉยต่อการคัดค้านอย่างกว้างขวางจากประชาคมนานาชาติ แต่ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ว่าพร้อมจะดำเนินการยับยั้งการพัฒนาขีปนาวุธ และอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างจริงจังมากไปกว่านี้
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาวุธนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทดสอบเป็นระเบิดไฮโดรเจนที่สามารถติดตั้งเป็นหัวรบบนขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปได้จริงตามที่อ้างหรือไม่ โดย น.ส.แคเธอรีน ดิลล์ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันการระหว่างประเทศศึกษามิดเดิลเบอรีของสหรัฐฯ บอกกับบีบีซีว่า แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการทดสอบนิวเคลียร์ในอุโมงค์ใต้ดินที่มีขนาด 6.3 จัดว่าเข้าขั้นต่ำสุดที่เป็นไปได้สำหรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากอาวุธนิวเคลียร์ความร้อน (เทอร์โมนิวเคลียร์) หรือระเบิดไฮโดรเจน แต่ยังจำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติมมากกว่านี้
สำนักข่าววิหคนิวส์