26 มิ.ย.64 – เวลา 15.50 ที่สะพานชมัยมรุเชฐ นายนิติธร ล้ำเหลือ กลุ่มประชาชนคนไทย จัดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกลาโหม โดยนายนิติธร กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีศักยภาพแม้กระทั่งตามคำพูดของตัวเองยังทำไม่ได้ อีกทั้งมีส่วนทำให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับผูกขาดอำนาจ ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญส.ส.ทั้งสภาไม่มีความหมาย ถ้าส.ว.ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ถูกเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเชื่อได้หรือไม่ว่าท่านไม่มีส่วนรู้เห็นในการเสนอร่างมาตรา 144 และมาตรา 185 ในแก้ไขปราบโกง เป็นการเปิดให้โกง การเล่นลิเกแบบนี้ใครก็ทำได้ ส่วนนายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงแม้จะมียศเป็นพลเอก แต่ตนไม่ยอมรับการเป็นชายชาติทหารของท่าน เพราะถ้าทหารดีเขาไม่ทำแบบนี้ ตอนนี้ท่านมีชื่อแค่ประวิตร กับตระกูลวงษ์สุวรรณ เท่านั้น ท่านเลือกเอาว่าให้ตระกูลของท่านถูกจารึกบนแผ่นดินแบบไหน หรือถูกจารึกภายใต้เท้าประชาชนท่านต้องเลือกเพราะท่านเป็นหัวหน้าพรรคท่านควรพอได้แล้ว
นายนิติธร กล่าวว่าวันนี้ประเทศเสียหายอะไรไปบ้างนับแต่ที่ท่านอยู่มา 7 ปี ทำไมการบินไทยในปัจจุบันถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงปล่อยให้เจ๊ง ขาดทุน และเรื่องนี้กำลังจะเกิดกับรัฐวิสาหกิจอื่นๆโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพลังงาน ถ้าท่านสามารถจัดการปัญหาจะทำให้ระบบพลังงานของประเทศมีความมั่นคง ค่าไฟก็จะไม่สูงขึ้น แต่ในวันนี้ค่าไฟสูงขึ้นเพราะรัฐวิสาหกิจต้องซื้อไฟจากเอกชน น้ำไฟท่านอยู่ฟรี ประชาชนไม่มีสิทธิเช่นท่าน ประชาชนวันนี้อดมื้อกินมื้อ ดังนั้นพล.อ ประยุทธ์จะต้องทำให้ประเทศไทยมีพลังงานสะอาดถาวร รวมถึงลดค่าใช้จ่าย แต่เรื่องนี้ท่านให้เอกชนทำ ประเทศไทยไมใช่ประเทศใหญ่ เป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองไม่มาก มีเนื้อที่ไม่มาก ฉะนั้นสาธารณูปโภคบางประการจำเป็นต้องจัดเป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นของประชาชนเป็นของรัฐ ไม่ให้ใครผูกขาด เพื่อจะได้มีอำนาจต่อรอง แต่ในวันนี้ทิศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจไม่มี
ด้านตัวแทนสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขึ้นปราศรัยว่า กรณีการบินไทย หากปล่อยให้รัฐวิสาหกิจบริหารกันเอง ไม่มีวันล่มสลายแน่นอน แต่รัฐบาลพยายามตั้งคนของตัวเอง เข้ามาเป็นบอร์ดบริหาร เพื่อแทรกแซงนโยบายจนกลายเป็นบริษัทเอกชน อีกทั้งช่วงโควิด-19 รัฐบาลมีนโยบายลดค่าน้ำ ค่าไฟ ทำให้มีหนี้ค้างจำนวนมาก แต่รัฐบาลไม่เคยให้ผู้ที่ถือหุ้นโรงไฟฟ้ามาร่วมรับผิดชอบแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากปราศรัยที่สะพานชมัยมรุเชฐเสร็จสิ้น นายนิติธร ได้เตรียมเคลื่อนย้ายรถขยายเสียงไปยังแยกนางเลิ้งเพื่อปราศรัยต่อ โดยผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมมีจำนวนประมาณ 30 คน