นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายไม่ได้ฟ้องร้องหรือแจ้งความ แต่มีปรากฏอยู่ในสังคมไทยเราจริงๆ และเกิดตามสถานที่ต่างๆ ไม่ใช่แค่สถานที่ลับตาคน ที่รกพงหญ้าเท่านั้นที่น่ากลัว แต่เชื่อหรือไม่ว่า สถานที่ทั่วไปที่มีผู้คนพลุกพล่าน ก็มีความน่ากลัวซ่อนเร้นอย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้เราขอยกตัวอย่าง 7 สถานที่อันตรายเสี่ยงเสียสาวที่คุณคาดไม่ถึงมาให้อ่านกันค่ะ เผื่อเป็นข้อมูลในการป้องกันตัวของสาวๆ ทั้งหลาย
1. แท็กซี่
แท็กซี่ดีๆ ก็มีมาก แต่ร้ายๆ ก็มีปะปน ถ้าคุณเห็นวี่แววไม่น่าไว้ใจ ก็ให้ระวังไว้ให้ดี วิธีของคนขับที่ไม่ประสงค์ดี คือการพยายามปล่อยสารหรือยาบางอย่างที่เขาทาไว้ที่มือให้แอร์เป่ามาด้านหลัง แล้วจะทำให้ผู้โดยสารเกิดอาการมึนงงและสลบได้
วิธีป้องกัน ควรจดจำทะเบียนรถที่ขึ้น เลือกนั่งเบาะหลังคนขับชิดประตูด้านขวา เวลาลงก็ให้ลงที่ประตูซ้ายเพราะจะยากต่อการที่คนขับจะเข้ามาจะจู่โจมได้ อย่าเผลอหลับบนรถ ถ้าเห็นท่าไม่ดี ก็ควรรีบลงทันที
2. ลิฟต์
ในลิฟต์ที่อำนวยความสะดวกในการขึ้นลงอาคารสูง แม้เพียงชั่วพริบตาก็อย่าประมาท เพราะคนร้ายก็ทำอันตรายคุณได้
วิธีป้องกัน พยายามหาเพื่อนผู้หญิงหรือคนไว้ใจขึ้น-ลงเป็นเพื่อน อย่ายืนชิดประตูลิฟต์เพราะอาจถูกคนร้ายผลักหรือดึงได้ เมื่อประตูลิฟต์เปิด ควรรีบเข้าไปยืนในจุดที่ใกล้กับแผงสวิตซ์กดลิฟต์ที่สุด หากเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถกดปุ่ม Emergency ขอความช่วยเหลือได้ง่าย
3. ปั๊มน้ำมัน
มิจฉาชีพจะแอบปีนเข้าไปตอนที่คนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิงเอารถแวะเข้าเติมน้ำมันหรือแวะจ
อดซื้อของตามร้านข้างทาง และเมื่อขับรถออกมาแล้ว คนร้ายที่อยู่ในรถก็จะลงมือชิงทรัพย์หรือทำอะไรเธอต่อไปอีกก็ได้
วิธีป้องกัน ให้ล็อกรถทุกครั้งที่ต้องลงจากรถ แม้ว่าจะเป็นการแวะลงไปทำธุระหรือซื้อของเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม ควรสำรวจหาบุคคลแปลกปลอมใต้ท้องรถและเบาะด้านหลังทุกครั้งก่อนกลับขึ้นรถ หมั่นสังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้างอยู่เสมอเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะเมื่อต้องไปไหนในเวลากลางคืน
4. ที่จอดรถ
ภัยนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้หญิงที่ขับรถปิกอัพคนเดียว ที่ไม่มีหลังคาท้ายกระบะ ซึ่งคนร้ายจะสามารถโยนสิ่งของใส่ท้ายรถได้ โดยของนั้นต้องเป็นที่สังเกตได้ง่าย
รูปแบบของแก๊งนี้ เขาจะใส่ยาหรือสารที่ทำให้เรางง มึน ไว้ในซองแล้วทิ้งไว้หลังรถเรา (แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง เขาก็มักจะทิ้งของบางอย่างไว้ข้างๆ รถแทน) เมื่อเราเห็นซองมักจะสงสัยและหยิบมาเปิดดู แล้วเขาก็จอดรถซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ เมื่อเหยื่อหลงกลเปิดดูหรือจับโดนสาร คนร้ายก็จะชิงรถและของมีค่าไปได้
5. ข้างถนน
ผู้หญิงเรามีความใจดีเป็นหลัก เมื่อเห็นใครเดือดร้อนก็อยากให้ความช่วยเหลือ มิจฉาชีพจึงใช้ความใจดีนี้ล่อลวงผู้หญิงมาให้ติดกับ
วิธีป้องกัน ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง แต่สิ่งที่จริงคือทุกวันนี้มิจฉาชีพมีอยู่ทุกซอกมุมของสังคม และจะพยายามใช้กลลวงทุกวิถีทาง ถ้าใครเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ควรพาเด็กไปส่งตำรวจและให้ตำรวจเป็นคนพาไปส่งที่บ้านจะดีกว่า
6. ห้างสรรพสินค้า, ฟาสต์ฟู้ด
ไม่เว้นแม้แต่ในห้างสรรพสินค้า ที่คนร้ายจะสรรหาวิธีมาใช้กับเหยื่ออยู่ตลอดเวลา บ้างก็แอบเอายามาใส่ในอาหารขณะที่เป้าหมายเดินไปซื้อน้ำ บ้างก็เอายาใส่ไว้ในหลอด แล้วเอาหลอดไปวางไว้ที่เดิมตรงที่กดหลอด เมื่อคนมาหยิบหลอดไปใช้ก็จะได้อันที่มียาไป พอคนร้ายเห็นคุณเริ่มมีอาการจากฤทธิ์ยา ก็จะแกล้งเข้าไปช่วยพยุง จากนั้นจะพาไปปลดทรัพย์ หรือข่มขืน
หรือขณะที่คุณใช้รถเข็นช้อปปิ้ง เมื่อคุณเผลอปล่อยรถเข็นไว้ คนร้ายก็อาจนำยาบางอย่างมาป้ายตรงราวจับรถเข็นของคุณได้ เมื่อคุณจับที่ราวนั่น ก็จะทำให้เกิดอาการชา มึนงง เหมือนจะเป็นลม และจากนั้นพวกคนร้ายก็จะลงมือกับคุณได้
7. บ้าน, ที่พัก
สถานที่เกิดเหตุมีทุกแห่ง รวมถึง ‘บ้าน’ สถานที่ที่ (คุณคิดว่า) ปลอดภัยที่สุด
วิธีป้องกัน ควรเลือกที่พักที่มีระบบความปลอดภัยดี ไม่ควรเลือกที่พักซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกขี้ยา หมั่นตรวจสอบกลอน ประตู หน้าต่างให้ดี ควรติดตั้งกลอนประตูแบบมีโซ่คล้อง เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายบุกเข้ามาในห้องได้ ระหว่างเปิดประตูคุยกัน อย่าไว้ใจใครง่ายๆ แม้จะเป็นคนรู้จักก็ตาม ควรติดตาแมวเพื่อส่องดูก่อนว่าใครมาอยู่หน้าห้อง ควรหลีกเลี่ยงใช้ห้องที่มีหน้าต่างบานเกล็ด เพราะจะง่ายต่อการตัดเหล็กเข้ามาเปิดกุญแจได้ ถ้าเป็นบ้านพัก ควรเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อเตือน
สำนักข่าว vihoknews