เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #70ล้านช่วยอสม. ! นายกฯ ส่งมอบกรมธรรม์แพทย์-เงินสนับสนุน อสม.70 ล้าน แก้วิกฤตโควิด-19

#70ล้านช่วยอสม. ! นายกฯ ส่งมอบกรมธรรม์แพทย์-เงินสนับสนุน อสม.70 ล้าน แก้วิกฤตโควิด-19

24 April 2020
1381   0

 

◽ นายกฯ ส่งมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตจากภาคเอกชนส่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ 70 ล้านบาท แจงส่งจดหมายถึงมหาเศรษฐีเพื่อขอความเห็นในการแก้ปัญหาร่วมกัน ยืนยันตั้งใจทำงานเต็มที่ มุ่งแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทุกคนเจ็บ-เหนื่อย ตนเองก็เหนื่อยด้วย เชื่อความร่วมมือทุกภาคส่วนจะทำให้ไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิดได้ ชี้แม้สถานการณ์ในไทยคลี่คลายลง แต่วางใจไม่ได้เพราะทั่วโลกยังระบาด จำเป็นต้องคุมเข้ม

วันนี้ (24 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานส่งมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมมอบกองทุนสนับสนุนและเยียวยาให้แก่ อสม. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมด้วย โดยการส่งมอบครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและภาคเอกชน คือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้มอบกรมธรรม์ประกันชีวิตสำหรับบแพทย์และพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม.จำนวนรวม 70 ล้านบาท ในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งและเสียสละ

 

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณบุคลากรทุกภาคส่วนที่ได้เสียสละ อุทิศตน ในการเฝ้าระวังคัดกรองโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ในประทศดีขึ้น ทั้งนี้ พลังนักรบเสื้อขาว และ อสม.ทุกคนถือเป็นด่านหน้าสำคัญที่ช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดมาด้วยความเสียสละ เป็นกำลังหลักในการเฝ้าระวังคัดกรองและดูแลผู้ป่วย ซึ่งรัฐบาลเป็นห่วงความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุข จึงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และ อสม.ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลก็ไม่ได้ประมาท ได้มีการเตรียมการวางแผนร่วมกันกับทั้งภาคเอกชน สังคมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำสุขภาพสำคัญที่สุด รองลงมาคือเรื่องเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าชื่นชมและขอบคุณที่บริษัท BTS ได้เข้ามาช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุข โดยมอบกรรมธรรม์เงินช่วยเหลือเยียวยาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางภาคเอกชนจะเข้ามาร่วมมือในการเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจต่อไป

นายกฯ ยืนยันความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชน ถือเป็นพลังประชารัฐในการร่วมมือแก้วิกฤตขณะนี้ ซึ่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายอย่างเข้มแข็ง แม้วันนี้สถานการณ์แพร่ระบาดในไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงไม่ประมาท มาตรการผ่อนปรนต่างๆ ที่จะออกมาต้องมีการประชุม โดยตนเองจะรับฟังข้อมูลด้านสาธารสุขเป็นหลักเพื่อนำไปแก้ปัญหาอื่นที่เชื่อมโยงต่อไป ยืนยันรัฐบาลเป็นห่วงประชาชนที่ขาดรายได้ในการประกอบอาชีพ และทำธุรกิจของเอกชน แต่สิ่งสำคัญคือสุขภาพประชาชนที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าอะไรที่ทำได้ทำไม่ได้ในอนาคต แต่วันนี้ต้องขอความร่วมมือในการช่วยเหลือกัน โดยรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาหยุดการระบาดโดย ต้องนำข้อมูลมาสังเคราะห์ใน ศบค.ว่าจะทำอย่างไรเพื่อการแก้ปัญหาซึ่งตนเองได้ทำงานอย่างเต็มที่

นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่าโรคโควิดไม่ใช่เชื้อลดลงแล้วจะปลอดภัย เพราะสถานการณ์แพร่ระบาด ยังกระจายทั่วโลก สามารถแพร่เชื้อได้ตลอดเวลา จึงต้องควบคุมการการแพร่ระบากจากนอกต่างประเทศ หรือแม้แต่คนที่ไม่ยอมปฎิบัติตามมาตรการของรัฐ ในการเว้นระยะห่าง ทั้งเรื่องใส่หน้ากาก การชุมนุมในพื้นที่นอกการควบคุม ทำความผิด เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่รัฐบาลได้คำนึงถึงสองเรื่องใหญ่ คือ สุขภาพของคนไทยเป็นหลัก และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลต้องพยายามใช้เงินอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดปัญหาในภายหน้า

พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังชี้แจงเรื่องส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังมหาเศรษฐีกับภาคเอกชนอีกครั้งว่า ต้องการสอบถามแนวทางการช่วยเหลือประชาชน พนักงาน ลูกจ้างในสังกัดอย่างไร เป็นการเชื่อมโยงในห่วงโซ่ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เพราะถูกจับตาจากหลายภาคส่วนซึ่งตนเองตั้งใจทำอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา เมื่อท่านเจ็บ ท่านเหนื่อย ตนก็เหนื่อยด้วย เมื่อมีปัญหาตนเองก็ต้องแก้ไขให้ได้ ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ ให้เกิดความสามัคคี ไม่แตกแยก เดินหน้าประเทศไปด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันยากลำบาก ดังนั้นเชื่อว่าจากความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจะทำให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน