ไลฟ์สไตล์ » สุขภาพ » 9 ผลไม้หาทานง่าย ขับถ่ายคล่อง แก้ท้องผูกได้อยู่หมัด

9 ผลไม้หาทานง่าย ขับถ่ายคล่อง แก้ท้องผูกได้อยู่หมัด

9 May 2017
455   0

อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่ไม่เข้าใครออกใคร บางทีขับถ่ายคล่องกันอยู่ดี ๆ อีกไม่กี่วันต่อมาดันเกิดอาการท้องผูกซะได้ และจะว่าไปอาการท้องผูกนี่ก็ร้ายนะคะ เพราะทำร้ายสุขภาพสารพัด ทั้งทำให้รู้สึกอึดอัด หงุดหงิดง่าย อ่อนแรง ผิวหน้าหมองคล้ำ เสี่ยงริดสีดวงทวาร แถมตอนท้องผูก ท้องเราก็มักจะป่อง ดูเผิน ๆ เหมือนอ้วนขึ้น หรือถ้าหนักก็โดนทักว่าท้องไปอีก โอ๊ย…ไม่ไหวแล้ว อย่างงี้ต้องมาแก้ท้องผูกเติมไฟเบอร์ให้ร่างกายด้วยผลไม้ช่วยขับถ่าย 9 อย่างหาทานง่ายที่เราอยากแนะนำ คืนความเรียบแบนให้หน้าท้องกันโดยด่วน

1. กล้วยน้ำว้าสุก

เพกตินในผลกล้วยน้ำว้าสุกคือสิ่งที่เราต้องการมาช่วยแก้ท้องผูก ซึ่งนอกจากเพกตินที่ว่าแล้ว กล้วยน้ำว้ายังเปี่ยมไปด้วยไฟเบอร์ และยังมีทีเด็ดที่เมือกลื่น ช่วยให้การขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และวิตามินซี ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน โดยกล้วยน้ำว้าสุก 1 ผลกลาง ให้พลังงานราว ๆ 60 กิโลแคลอรี

2. มะละกอ

อีกหนึ่งตัวช่วยแก้ท้องผูกที่คุณก็รู้จักกันดี แต่ก็อยากบอกให้รู้กันอีกนิดว่ามะละกอมีน้ำย่อยธรรมชาติที่สามารถกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ ที่ร่างกายย่อยไม่หมดออกไป ช่วยกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการขับถ่ายของลำไส้ รวมทั้งพาเอาปัญหาท้องผูกออกไปจากตัวเราด้วย ส่วนคุณผู้หญิงที่อยากมีผิวพรรณดี ช่วยชะลอวัย ก็ควรทานมะละกอ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงใช้ได้เลย ซึ่งมะละกอสุก 8 ชิ้นคำ จะให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี

3. มะขาม

มะขาม 1 ฝักเล็ก ๆ ให้พลังงานเพียงแค่ 5-10 กิโลแคลอรีเท่านั้น แต่สำหรับคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายไม่ออกนานเป็นสัปดาห์ แนะนำให้แก้ท้องผูกด้วยมะขามเปียก 1 ก้อน แช่ในน้ำอุ่นประมาณ ​3 แก้ว แล้วใช้ช้อนบี้เพื่อให้ได้น้ำมะขามเปียกข้น ๆ แล้วก็ดื่มน้ำมะขามเปียกนั้นให้หมดแก้วก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง รับรองพรุ่งนี้เช้าได้ดีลกับชักโครกจนท้องโล่งแน่ ๆ

4. ลูกพรุน

ผลไม้ชนิดนี้ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกหรือขับถ่ายลำบากได้ดีเลย เพราะลูกพรุน 1 ลูกก็มีปริมาณไฟเบอร์สูงถึง 1.4 กรัมเลยทีเดียว ยิ่งหากกินลูกพรุนแล้วดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรไปด้วย ระบบขับถ่ายจะยิ่งคล่องตัวเป็นทวีคูณ นอกจากนี้ ลูกพรุนยังมีไขมันต่ำและแคลอรีน้อย คือ 1 ผลให้พลังงานราว ๆ 20-25 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง ทานเป็นประจำก็ช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย

5. แอปเปิลเขียว

ถ้าอยากกินแอปเปิลเขียวเพื่อช่วยแก้ท้องผูกอย่างได้ประสิทธิภาพเต็ม ๆ แนะนำให้กินแอปเปิลเขียวทั้งเปลือกนะคะ แล้วเราจะได้ไฟเบอร์ครบ 4.4 กรัม ต่อแอปเปิลเขียวขนาดกลาง 1 ผล พร้อมรับพลังงานไป 60-70 กิโลแคลอรี ซึ่งเจ้ากากใยในแอปเปิลเขียวนี่แหละ ตัวเด็ดของการแก้ท้องผูก

6. ส้ม

ใครรู้ตัวว่าท้องผูกเพราะเราเองที่ดื่มน้ำน้อย ลองแก้ปัญหานี้ด้วยการรับประทานส้มเขียวหวานก็ช่วยได้ เพราะส้มไม่ได้มีไฟเบอร์เยอะเท่านั้น แต่ปริมาณน้ำในส้มก็เยอะพอตัว จึงช่วยแก้ท้องผูกให้คนที่ถ่ายยากเพราะในลำไส้มีน้ำน้อยได้เป็นอย่างดี โดยส้ม 1 ผลกลางให้พลังงานประมาณ 50-60 กิโลแคลอรี แต่ทั้งนี้ก็ควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เยอะขึ้นเพื่อช่วยให้ถ่ายคล่องยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยนะ

7. มะม่วงสุก

การศึกษาในปี 2013 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Gastroenterology พบว่า ไฟเบอร์ในมะม่วงสามารถปรับสภาพแวดล้อมในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เมื่อรวมกับฤทธิ์ของวิตามินซีในส่วนของการช่วยระบาย ก็ยิ่งทำให้มะม่วงมีประโยชน์ต่อการทำงานของลำไส้ยิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก แถมยังเป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัวน้อย คอเลสเตอรอลต่ำ โซเดียมต่ำ อีกทั้งยังมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนให้ง่ายต่อการดูดซึมของร่างกาย แต่เตือนไว้ก่อนว่า มะม่วงสุกให้พลังงานสูงพอสมควร คือมะม่วงสุกประมาณครึ่งลูก ให้พลังงาน 75 กิโลแคลอรี เพราะฉะนั้นถ้าเผลอทานมากก็คงสะเทือนแผนลดน้ำหนักแน่ ๆ

8. สับปะรด

อีกหนึ่งผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องช่วยย่อย สับปะรดเองก็มีน้ำย่อยจากธรรมชาติในตัวเองเหมือนมะละกอค่ะ ดังนั้นใครรู้สึกอาหารไม่ค่อยย่อย ถ่ายไม่ค่อยออก ลองกินสับปะรดเข้าไปช่วยแก้ปัญหานี้ดู ส่วนใยอาหารในสับปะรดก็ช่วยลดน้ำหนักได้ และยังทำให้รู้สึกอิ่มเร็วด้วย ทานสัก 8 ชิ้นคำ รับพลังงานไปราว ๆ 60 กิโลแคลอรี

9. แก้วมังกร

แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง ดังนั้นจึงสามารถช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้สะดวก ซึ่งจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เม็ดสีดำเล็ก ๆ คล้ายเม็ดแมงลักในเนื้อแก้วมังกร ยังมีกรดไขมันที่สามารถช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลหรือไขมันเลวออกจากร่างกายได้อีกด้วย ฉะนั้นแก้วมังกรจึงดีต่อคนที่อยากลดน้ำหนักไปพร้อมกัน อ้อ ! ลืมบอกอีกอย่างว่า แก้วมังกรเป็นผลไม้แคลอรีต่ำ 100 กรัม หรือราว ๆ 8 ชิ้นคำ จะให้พลังงานราว ๆ 60-70 กิโลแคลอรี

สะดวกจะหาผลไม้ช่วยขับถ่ายชนิดไหนมาช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องตัวขึ้นก็เลือกกันตามสบายเลยนะคะ และอย่างที่บอกว่าเราเองก็ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น และงดเครื่องดื่มที่อาจสร้างปัญหาท้องผูกอย่างชา กาแฟ ไปด้วย

สำนักข่าว vihoknews