ประธานาธิบดีซิมบับเวและครอบครัวโดนกักตัวแล้ว และปฏิเสธว่าไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น มีเพียงการเปลี่ยนผ่านโดยไม่นองเลือดเท่านั้น
สำหรับเหตุการณ์กักตัวประธานาธิบดีซิมบับเวครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ ประธานาธิบดีมูกาเบ สั่งปลดรองประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน เอ็มนันแกกวา โดยกล่าวหาว่าเอ็มนันแกกวามีท่าที “ทรยศไม่ซื่อสัตย์” และวางแผนจะยึดอำนาจ
บ่ายวันนี้ (15 พ.ย.) พรรคซานู-พีเอฟ พรรครัฐบาลของซิมบับเวแถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า ประธานาธิบดีซิมบับเวและครอบครัวโดนกักตัวแล้ว และปฏิเสธว่าไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น มีเพียงการเปลี่ยนผ่านโดยไม่นองเลือดเท่านั้น
“พรรคซานู-พีเอฟมีวิธีแก้ปัญหาของเราเอง สถานการณ์มีเสถียรภาพดี และซิมบับเวก็เปิดกว้างสำหรับธุรกิจต่างๆ ไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น มีเพียงการเปลี่ยนผ่านโดยสันติและไม่นองเลือด ศูนย์กลางของเราแข็งแกร่ง มีสันติและผู้นำที่ซื่อสัตย์” พรรคซานู-พีเอฟ กล่าวผ่านทวิตเตอร์
นอกจากนี้ยังระบุว่า มีเพียงการจับกุมคนที่คดโกงและทุจริต ส่วนเสียงปืนที่ได้ยินนั้นเกิดจากการต่อต้านการจับกุม แต่ขณะนี้กลุ่มคนดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
ย้อนกลับไปช่วงเช้าวันนี้ (15 พ.ย.) มีรายงานผู้ได้ยินเสียงยิงปืนบริเวณใกล้บ้านพักส่วนตัวของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ในกรุงฮาราเร เมืองหลวงของซิมบับเว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า “เราได้ยินเสียงปืน 30-40 ครั้งจากทิศทางที่เป็นบ้านของเขา เสียงปืนเริ่มขึ้นหลังเวลา 2 นาฬิกาเพียงไม่นาน และดังอยู่ประมาณ 3-4 นาที”
ต่อมาก็มียานพาหนะติดอาวุธถูกส่งมาประจำหลายจุดตามถนนหนทางในกรุงฮาราเร รวมทั้งเข้ายึดสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ZBC เตรียมพร้อมก่อการรัฐประหาร
แต่เช้าวันเดียวกัน กองทัพก็แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า ไม่ได้จะก่อการรัฐประหาร เสียงปืนนั้นเป็นเพียงการ “มุ่งเป้าจัดการอาชญากร” ไม่ใช่ประธานาธิบดี
“กองทัพไม่ได้ยึดอำนาจรัฐบาล” นายทหารกล่าว “เราต้องการยืนยันกับทั้งประเทศว่าท่านประธานาธิบดีและครอบครัวปลอดภัยดี และพวกเขาได้รับการรับรองความปลอดภัย”
“เราเพียงมุ่งเป้าไปที่อาชญากรรอบตัวประธานาธิบดี ซึ่งพยายามจะก่ออาชญากรรม ทันทีที่เราบรรลุภารกิจ เราคาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ”
และในวันเดียวกันนั้นเองมีรายงานเหตุระเบิดอย่างน้อย 3 ครั้งในกรุงฮาราเร
สถานทูตสหรัฐฯ และสถานทูตสหราชอาณาจักรได้ออกประกาศเตือนพลเมืองในซิมบับเวให้ “หาที่หลบภัย” และ “อยู่ในบ้าน” เนื่องจากสถานการณ์อยู่ในภาวะไม่มั่นคง
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากประธานาธิบดีมูกาเบสั่งปลดรองประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน เอ็มนันแกกวา โดยกล่าวหาว่าเอ็มนันแกกวามีท่าที “ทรยศไม่ซื่อสัตย์” และวางแผนจะยึดอำนาจ
จากนั้น วันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดซึ่งเป็นพันธมิตรกับเอ็มนันแกกวากล่าวว่า เขากำลังเตรียมการจะ “ลงมือ” ยุติการกวาดล้างกลุ่มผู้สนับสนุนเอ็มนันแกกวา สถานการณ์ทางการเมืองของซิมบับเวจึงตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
ฝ่ายพรรครัฐบาลของซิมบับเวจึงตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด “มีพฤติกรรมกบฏ” เนื่องจากท้าทายประธานาธิบดี ส่งผลให้เกิดเหตุตามที่รายงานข้างต้น
WAT.
สำนักข่าววิหคนิวส์