ตำรวจออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ตัวละครเอี่ยวปั้นแพะคดี”จอมทรัพย์” พร้อมส่งทีมสืบสวนคดี”เปรี้ยว หั่นศพ” ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่ 14 ดีเอสไอติดภารกิจ เลื่อนพบพนักงานสอบสวนเป็น 7-8 ธ.ค.นี้ ด้านอดีตสามีรอดนอนคุก ศาลให้ประกันตัว
ยังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับการคลี่คลายคดี “ปั้นแพะ” ของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือครูจอมทรัพย์ อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร พร้อมพวก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล กรณีขอรื้อฟื้นคดีขับรถชนคนเสียชีวิต และข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร
เอาผิดอดีตสามี”จอมทรัพย์”3ข้อหา
ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.60 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) นครพนม เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 29 พ.ย.60 นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตสามีนางจอมทรัพย์ ได้เข้ามารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายนิรันดร์ 3 ข้อหา คือ 1.ฐานให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน 2.เบิกความเท็จต่อศาล และ 3.ซ่องโจร ซึ่งเป็นฐานความผิดร่วมกันกับนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง เนื่องจากพบหลักฐานเชื่อมโยงว่านายนิรันดร์ เคยมาให้การตำรวจ เพื่อหาทางช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ ก่อนจะมีการรื้อฟื้นคดี
พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวอีกว่า นายนิรันดร์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยตำรวจไม่ได้จับกุมและควบคุมตัวแต่อย่างใด หลังสอบสวนปากคำเสร็จได้อนุญาตให้กลับบ้าน เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเข้ามารายงานตัวด้วยตนเอง โดยนัดให้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนในเวลา 10.00 น.วันที่ 30 พ.ย.60 ที่ สภ.เมืองนครพนม
รอดนอนคุกศาลให้ประกัน
พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 12.00 น.วันนี้(30 พ.ย.60) นายนิรันดร์เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับทนายความ 3 คน และญาติ ซึ่งได้หอบเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นเรื่องขอประกันตัว จากนั้นพนักงานสอบสวนคุมตัวนายนิรันดร์ส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม โดยทนายยื่นเงินสด พร้อมหลักฐานการดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนี่งใน จ.สกลนคร เพื่อใช้ตำแหน่งข้าราชการขอประกันตนเอง กระทั่งเวลา 15.50 น. ศาลอนุญาตให้นายนิรันดร์ประกันตัว
เรียกสอบเพิ่มอีก 5 ตัวละครปั้นแพะ
พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวด้วยว่า หลังจากได้สอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนางจอมทรัพย์ พบว่า ยังมีผู้ที่อยู่ในข่ายร่วมกันกระทำผิดเพิ่มอีกหลายราย ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 5 คน โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องในการให้การเท็จในขั้นตอนต่างๆในการรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ ซึ่งผู้ที่ถูกออกหมายเรียกอีก 5 คน คือ 1.นางทองเรศ วงศ์ศรีชา 2.นางวาสนา เพชรทอง 3.นายธนัท สุขตลอดปี 4.นางรจนา สารรัตน์ และ 5.นายเสน่ห์ สุพรรณ โดยมีนางทองเรศ คนเดียวที่มีภูมิลำเนาใน จ.นครพนม ส่วนอีก 4 คน มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด โดยข้อหาที่แจ้งจะเป็นร่วมกันนำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ บางคนจะเป็นเบิกความเท็จ และมีบางคนโดนข้อหาซ่องโจร
ศาลให้ประกัน”ทัศนีย์”
ส่วนนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ หลังจากถูกนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจังหวัดนครพนมแล้ว พบว่า นางทัศนีย์เคยป่วยเป็นโรคความดัน และมีประวัติการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก ซึ่งหลังตรวจเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยศาลให้ประกันตัวไป โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงิน 1 แสนบาท
14ดีเอสไอเลื่อนพบตร.
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4(บช.ภ.4) พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4(รอง ผบช.ภ.4) ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีนางจอมทรัพย์ กล่าวว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 4 ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม ในการเรียกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) 14 คน ที่เกี่ยวข้องกับคดีนางจอมทรัพย์มาสอบสวนในวันนี้(30 พ.ย.60) ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้
ติดภารกิจช่วยลูกหนี้-นัดใหม่7ธ.ค.
“เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่าทั้ง 14 คน อยู่ในชุดศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำได้ และจะเดินทางมาให้ปากคำในวันที่ 7 ธ.ค.60 โดยชุดที่ 1 จะเข้าให้ปากคำในวันที่ 7 ธ.ค.60 ชุดที่ 2 เข้าให้ปากคำในวันที่ 8 ธ.ค.60” รอง ผบช.ภ.4 กล่าว
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนเมื่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอโทร.มาเลื่อนให้ปากคำ ก็จำเป็นต้องเลื่อนออกไป ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 4 จะทำหนังสือแจ้งกลับไปยังดีเอสไอขอเลื่อนการสอบสวนเข้ามาให้เร็วที่สุด และขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก การเรียกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาสอบสวน ก็สอบสวนในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ยันเรียกสอบรองปลัดยธ.
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวด้วยว่า สำหรับการสอบสวนรองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ยืนยันว่าจะมีการเชิญตัวมาสอบสวนแน่นอน แต่ทุกอย่างต้องรอให้การสอบสวนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเสร็จสิ้นก่อน เพราะเมื่อสอบสวนเรียบร้อยตามขั้นตอนแล้ว จะมีคณะกรรมการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนมาตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ และเมื่อมีผลสรุปที่สมบูรณ์ชัดเจน จึงจะเชิญรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมาสอบสวน
ส่งทีมสืบ”เปรี้ยว หั่นศพ”คลี่ปม
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวด้วยว่า การทำงานของทีมพนักงานสอบสวนคดีนางจอมทรัพย์ในครั้งนี้ จะควบคู่ไปกับการสืบสวนอีกครั้ง เพราะหากการสอบสวนพบพิรุธ หรือขัดกับพยานหลักฐานต่างๆ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4(กก.3 บก.สส.ภ.4) ซึ่งเป็นทีมคลี่คลายคดี “เปรี้ยว หั่นศพ” จะลงพื้นที่สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเช่นกัน โดยยืนยันว่า ทุกขั้นตอนต้องละเอียด รอบคอบและชัดเจนที่สุด
ดีเอสไอยันยกทีมพบตำรวจ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้ส่งข้อมูลและรายชื่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรมทั้งหมดแล้ว รวมถึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกคนให้เข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ภ.4 จ.ขอนแก่น แล้ว คาดว่าในสัปดาห์นี้น่าจะไม่ทัน เพราะเจ้าหน้าที่บางคนติดภารกิจทำคดีอยู่ต่างจังหวัด จึงนัดหมายพร้อมกันจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนได้ในสัปดาห์หน้า โดยจะไปพร้อมกันทั้งทีมและจะแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งชุดสอบสวน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ดีเอสไอพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ หากพนักงานสอบสวนต้องการข้อมูลก็พร้อมส่งให้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะต้องแจ้งพนักงานสอบสวนก่อนเดินทางเข้าพบเพื่อประสานวันเวลาให้ตรงกัน
ยุติธรรมเรียกสอบ4ธ.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นทีมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน บช.ภ.4 จ.ขอนแก่น ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ส่วนกรณีการเข้าชี้แจงกับคณะกรรมการตรวจสอบฯของกระทรวงยุติธรรมนั้น จะให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เริ่มเข้าพบชี้แจงข้อมูล วันที่ 4 ธ.ค.60 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
Cr. Naewna
สำนักข่าววิหคนิวส์