“ศรีวราห์”ยันอาวุธสงครามแปดริ้วโยง”จักรภพ-เสธ.หยอย” ลั่นไม่จัดฉาก ไม่มีแพะ ชี้ที่จับได้ยังไม่ถึงครึ่งที่ซ่องสุม ลั่นขอหมายจับยกก๊วนภายในสัปดาห์นี้แน่
แนวหน้า – 6 ธ.ค.60 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีพบอาวุธสงครามเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดจำนวนมาก ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ในบึงน้ำ หมู่ 15 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้โอนสำนวนการสืบสวนสอบสวนจาก สภ.ดอนฉิมพลี จ.ฉะเชิงเทรา มาไว้ที่กองบังคับการปรามปราม (บก.ป.) ในการสืบสวนมีความคืบหน้าพอสมควร จะสามารถออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ขอเปิดเผย หมายจับออกเมื่อไหร่ก็จะทราบเอง เป็นเรื่องในสำนวน
“ในชั้นสืบสวนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับปีเหตุการณ์ปี 57 เป็นความเชื่อมโยงโดยวัตถุพยาน ดูจากรหัสนัมเบอร์เป็นอาวุธล็อตเดียวกันกับปี 57 ล็อตเดียวกับ 18 คดีในตอนนั้น ตอบไม่ได้ว่าทำไมอาวุธถึงถูกนำมาซ่อนอยู่ในหนองน้ำ ตอบได้เพียงแค่เป็นอาวุธที่พร้อมใช้งาน ประจักษ์พยานยืนยันว่าอาวุธ ถูกนำมาเมื่อเดือนตุลาคม 60 ที่ผ่านมา เป็นไปได้เอามาเพื่อเตรียมใช้งาน ก่อนหน้านั้นตั้งแต่57 ค้นไม่พบแต่กลับมาพบในปีนี้ ไม่ขอตอบว่าอาวุธนั้นจะนำไปก่อเหตุหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นอื่นอีก แต่อีโอดียืนยันเป็นอาวุธที่พร้อมใช้งาน” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ส่วนกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่เป็นฮาร์ดคอร์ กลุ่มเสื้อแดง มีข่าวเคลื่อนไหวหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่พบการเคลื่อนไหวของอาวุธ แต่จะเคลื่อนไหวเพื่ออะไรนั้นไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่าเป็นการจัดฉาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ไม่มีการจัดฉาก ไม่มีแพะหรอก ไม่เกี่ยวโยงกับความเคลื่อนไหวปลดล็อคการเมืองในช่วงนี้ แต่เราพบความเคลื่อนไหวของอาวุธจริง ที่ผ่านมาแม้มีการตรวจค้นอาวุธต่อเนื่อง แต่คนมุ่งกับคนเมินต่างกัน มีอาวุธจำนวนมากที่ซ่องสุมไว้ และซ่อนไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ในทางสืบสวนอาวุธที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดตั้งแต่ปี 57 จนถึงปัจจุบัน ยังได้มาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ค้นเจอแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ หาไม่เจอ จับไม่ได้มากกว่าครึ่ง แต่ก็พยายามค้นหามากว่า 3 ปีที่ ตู้คอนเทนเนอร์เป็นพันตู้ก็ค้นหา เจ้าหน้าที่ก็พยายามกวดขัน ตรวจยึด จับกุม ไม่ให้นำมาใช้ทำอันตรายต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อความสงบสุขของประชาชน
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนอาวุธล็อตนี้โยงกับอาวุธที่กลุ่ม นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ , นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำ นปช.และ พล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาค 3 ที่ถูกออกหมายจับในปี 57 ครั้งนี้ก็เชื่อมโยงด้วยหลักฐานของอาวุธที่พบ ซึ่งการขออนุมัติหมายจับมากกว่า 3 คน รวมทั้งคนที่ถูกคุมตัวโดยทหารไว้แล้ว และสั่งการขยายผลไปแล้วว่าสืบสวนสอบสวนไปถึงใครก็ดำเนินคดีขอหมายจับหมดอาจมากกว่า 5 คน ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบและแห่งชาติ (คสช.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี กับ 1.นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร 2.นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือ เปี๊ยก กาละแม 3.นายสมเจตน์ หรือ สน คงวัฒนะ 4.นายมนัส หรือ พล.ท.มนัส เปาริก และ 5.นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง ในฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร
และเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร ซึ่งเป็นเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ และมีชื่อเป็นเครือข่ายคดีอาวุธสงคราม ที่ตำรวจได้ออกหมายจับปี 57 นั้น ได้เดินทางเข้ามาติดต่อขอมอบตัวกับทหารในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ ทบ.1 (ศปภอ.ทบ.1) ที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี โดยจะนำตัวไปขออนุมัติศาลเพื่อฝากขังผัดแรกในวันที่ 7 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ นายจักรภพ และพวก เคยถูกออกหมายจับในคดีอาวุธสงครามมาแล้วเมื่อปี 57
สำนักข่าววิหคนิวส์