ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » เอาแล้วไง!!! เจอศพพระคากุฏิวัด หลังจากนั้นพบลาตาย!!!

เอาแล้วไง!!! เจอศพพระคากุฏิวัด หลังจากนั้นพบลาตาย!!!

31 May 2017
626   0

วันที่ 31 พ.ค. 60 ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.ศิริชัย โพธิ์จักร สารวัตร สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุ มีพระภิกษุ มรณะภาพภายในกุฏิ วัดป่าโนนสง่า หมู่7 ตำบลนิคมสงเคราะห์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม

จากการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็น กุฏิไม้ยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ภายในพบศพ พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ อายุ 44ปี สภาพใช้เชือกไนล่อนผูกคอเสียชีวิตกับขื่อ ในสภาพห้อยโตงเตง ที่บริเวณหน้ากุฏิ มีใบสุทธิของพระที่ผูกคอตาย โทรศัพท์มือถือ 1เครื่อง และบัตรประชาชน
นอกจากนี้ ชาวบ้านที่มาทำบุญ รู้ข่าวจึงเข้าได้มามุงดู และวิพากษ์วิจารณ์ สาเหตุที่พระผูกคอตายครั้งนี้ พร้อมกับยกมือไหว้ขออโหสิกรรมกับพระที่ผูกคอตาย ที่อาจเคยล่วงเกินกันมาบ้าง ในครั้งที่ท่านมีชีวิต

ทั้งนี้ ยังพบจดหมายลาตายของพระพงษ์พันธุ์สีลาคุปต์ ในข้อความระบุว่า ขอขมาพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ ฝากเผาศพให้ผมด้วย คิดว่าท่าน เขียนจดหมายเมื่อคืนนี้ เพราะไม่ได้ไปสวดมนต์ ที่ศาลาการเปรียญ มาเห็นจดหมายลาตายที่เขียน อยู่บริเวณแถวกุฏิเจ้าอาวาส คาดว่า พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ นำไปวางไว้ ก่อนกลับมาผูกคอตายในกุฏิ ของตนเอง
สอบถาม นายเดช บุญศิลป์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่113 หมู่7 บ้านโนนสง่า ตำบลนิคมสงเคราะห์ เผยว่า เช้าวันนี้ พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ ไม่ได้ออกไปบิณฑบาต คิดว่าท่านไม่สบาย เพราะก่อนหน้าท่านเคยไปผ่าตัดโรคไต ตนจึงได้นำอาหารไปถวาย ที่กุฏิ พอตนเปิดประตูเข้าไปนั้นเห็น พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ ผูกคอตาย ตนถึงกับช็อก ซึ่งในตอนแรกคิดว่าท่านเล่น จึงได้ไปเขย่าตัวท่านปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว ตนได้ไปบอกเจ้าอาวาสวัด และโทรแจ้งตำรวจ มาทำการตรวจสอบ

ด้าน นางแสงจันทร์ ลอยสงวน อายุ 73 ปีอยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่7 บ้านโนนสง่า ต.นิคมสงเคราะห์ ให้การว่า เมื่อวานนี้ตอนเช้า ตนล้างถ้วยจานเสร็จ พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ ได้มาพูดคุยด้วยเป็นครั้งสุดท้ายบอกว่าได้มีวิญญาณ ตามมาหลอกหลอน แม้แต่ทำกิจสงฆ์ก็มากวน ซึ่งตนใกล้จะหมดกรรมแล้ว จึงได้พูดปลอบใจท่าน เดียวอะไรจะดีขึ้นมา พอตนมาที่วัดรู้ว่า พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ ผูกตาย ทำให้ถึงกับใจหายไม่คิดว่าท่านจะคิดสั้นทำเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.ศิริชัย โพธิ์จักร สารวัตร เผยว่า พระพงษ์พันธุ์ สีลาคุปต์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ ตำบลโนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และได้อุปสมบท ที่วัดทุ่งโพธิ์ ตำบลอีสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อปี2556 ซึ่งก็ได้มาจำวัดที่วัดป่าโนนสง่า ได้กว่า 1ปี ล่าสุดได้เดินทางไปวัดที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แล้วก็กลับมาที่วัด ได้ประมาณ 5 วัน โดยแพทย์เวร ได้ทำการชันสูตรศพ ไม่พบร่องรอย บาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างไร ส่วนสาเหตุการตาย มาจากขาดอากาศหายใจ ใช้เชือกผูกคอตาย เสียชีวิตมาได้ประมาณ 7 ชั่วโมง จึงได้ลงบันทึกไว้หลักฐาน โดยจะได้ติดต่อญาติ มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สำนักข่าว vihoknews