23 ธ.ค.60 หลังจากที่ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้ออกหมายเรียก ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย มาทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม จากกรณีถูกฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าแจ้งความร้องทุกข์การกระทำผิดหลายกระทง ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 จากกรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ได้นำเสนอบทความหรือข้อความอันเป็นความเท็จและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก
ล่าสุด ร.ท.หญิง สุณิสา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว “หมวดเจี๊ยบ 1 Sunisa Divakorndamrong” ระบุถึงสาเหตุของการถูกดำเนินคดี ว่า ไม่ใช่เพราะพูดเท็จ แต่คงเพราะพูดความจริงเกินไปจนแทงใจดำ หัวหน้า คสช. พร้อมยืนยัน จะต่อสู้ข้อกล่าวหาเส็งเคร็งนี้อย่างถึงที่สุด
ที่เจี๊ยบโดนคดีเพิ่ม ไม่ใช่เพราะพูดเท็จ แต่คงเพราะพูดความจริงเกินไปจนแทงใจดำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากกว่ามั้งคะ?
หลายท่านคงได้ยินข่าวแล้วว่า เจี๊ยบโดน คสช. ดำเนินคดีเพิ่มเติม เพราะวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล
แต่ที่ดิฉันโดนดำเนินคดี ไม่ได้เป็นเพราะดิฉันพูดความเท็จ แต่เป็นเพราะดิฉันพูดความจริงต่างหาก และมันคงจริงมากจนไปแทงใจดำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช่ไหม
ดิฉันคิดว่าการปฏิรูปทางการเมืองและการป้องกันการโกงให้ได้ผลนั้น เราต้องส่งเสริมกระบวนการตรวจสอบจากภาคประชาชนด้วย ไม่ใช่แก้ด้วยการเขียน ก.ม. และกำหนดบทลงโทษเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำควบคู่กันไป ทั้งการปฏิรูปกฎหมายและเปิดพื้นที่ให้ประชาชน นักวิชาการและสื่อมวลชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นไปพร้อมๆ กันด้วย
การที่ คสช. เที่ยวไล่ดำเนินคดีคนที่คิดต่างที่ไม่ยอมเลียแข้งเลียรัฐบาลนั้น เป็นการบ่อนทำลายกระบวนการตรวจสอบรัฐบาล และเป็นการบอนไซความคิดของประชาชน ทำให้คนไทยไม่กล้าคิดต่างและไม่กล้าคิดนอกกรอบ
ทั้งนี้ คนไทยรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ยินดีเสียภาษี แต่เขาต้องการมีปากมีเสียงด้วย ไม่ใช่ให้มีหน้าที่นั่งเสียภาษีอย่างเดียว แล้วไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องบ้านเมือง
ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบ้านเมืองภายในกรอบของกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายสักหน่อยและไม่เห็นจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐตรงไหน
แต่ภัยที่แท้จริงซึ่งบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ คือ การยึดอำนาจและใช้กฎหมายกดหัวคนคิดต่าง นี่ต่างหากที่ทำให้บ้านเมืองถอยหลังลงคลองและไม่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในทุกๆ ด้าน ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม.
ส่วนเรื่องคดีของเจี๊ยบนั้น ตำรวจ บก.ปอท. แจ้งว่าหลังปีใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะประสานทนายความของเจี๊ยบเพื่อนัดหมายวันเวลาไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกค่ะ และเจี๊ยบก็ยืนยันคำเดิมว่าพร้อมจะต่อสู้ข้อกล่าวหาเส็งเคร็งนี้ให้ถึงที่สุดค่ะ.
สำนักข่าววิหคนิวส์