ในช่วงเดือนแรก หรือปีแรกของชีวิตแต่งงาน คู่รักข้าวใหม่ปลามันอาจต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากที่เคยฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งกันก่อน ก็อาจจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันใหญ่โตได้ ถ้าไม่ตั้งรับให้ดี ดังนั้น เราอยากให้คุณเตรียมใจไว้และพบกับความจริงที่เราหาข้อมูลมาให้แล้วว่า อะไรบ้างที่คุณเข้าใจผิดหรือที่คิดไปคลาดเคลื่อนจากชีวิตจริง
1. ความคาดหวังในหน้าที่สามีภรรยา
นอกจากการแต่งงานจะเป็นการเปลี่ยนสถานะจากแฟนเป็นสามีภรรยาแล้ว การเข้ามาอยู่บ้านดียวกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน บางคู่ก็ถือเป็นการบ่งชี้บทบาทหน้าที่ความเป็นสามีภรรยาที่ชัดเจนขึ้นด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขามีความคาดหวังในตัวคุณสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่คุณทั้งคู่ควรตั้งรับก็คือ การคุยกันให้เข้าใจว่าคุณสามารถจะทำอะไรกันบ้าง ต่างฝ่ายต่างรับผิดชอบอะไรบ้างอย่างเต็มใจ เช่น เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน เรื่องรถ เรื่องลูก แต่ละเรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแตกรายละเอียดปลีกย่อยไปอีก ถ้าจะมีสิ่งใดที่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ให้รีบคุยปรับความเข้าใจกันทันที เพื่อป้องกันปัญหานี้
2. การเผยตัวตนมากขึ้น
เชื่อว่าก่อนตัดสินใจแต่งงานคุณทั้งคู่ก็ศึกษาดูใจกันมาจนแน่ใจในระดบหนึ่งแล้ว แต่พอหลังแต่งงานที่คุณได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้คุณเห็นถึงนิสัย และพฤติกรรมลึกๆ ของเขาที่แอบซ่อนไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น อย่ามัวแต่โกรธเคือง หรือจ้องจับผิดเวลาที่เขาที่ทำสิ่งที่คุณไม่ชอบใจออกมา จงตักเตือนเขาและใช้เวลาเรียนรู้และปรับตัวเขาหากันจะดีกว่า เพราะไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟ็กต์หรอก
3. เรื่องเงินๆ ทองๆ
การเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ได้แปลว่าเรื่องเงินทอง จะไม่มีปัญหาเหมือนกับคนที่ไม่รู้จักกันหยิบยืมกัน แต่เพราะนิสัยเรื่องการใช้เงินที่แตกต่างกันนี่แหละที่ทำให้เกิดความล้ำเส้นกันอย่างไม่มีเหตุผลได้ง่าย จนบางคู่ถึงขั้นหย่าร้างกันมาแล้ว ดังนั้น ก็แจกแจงกันแต่ละเรื่องให้ชัดเจนไปเลยว่า แต่ละเดือนมีภาระรับผิดชอบร่วมกันอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไหร่ เหลือเงินเก็บเท่าไหร่ มีแผนทางการเงินอะไรบ้างเพื่ออนาคต และทางที่ดีที่สุดควรมีจดบัญชีรายรับรายจ่ายด้วย เพื่อสร้างความมั่นคงร่วมกันในอนาคต อีกทั้งจะได้ประเมินค่าใช้ที่จำเป็นด้วย
4. ความห่างเหินจากครอบครัวเดิม
แม้ว่าชีวิตคู่จะเป็นชีวิตของคนสองคน แต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่มีความสำคัญเลย ยิ่งหลังแต่งงานก็ทำให้เกิดความรู้สึกห่างเหินจากครอบครัวเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่ที่แยกตัวออกมาสร้างครอบครัวใหม่ ฉะนั้น เมื่อมีเวลาว่างก็โทรศัพท์ไปหาหรือแวะเวียนไปหาท่านบ้างนะ เพราะการแต่งงานไม่ใช่แค่คุณแต่งงานกับเขา แต่รวมถีงเป็นการแต่งงานกับครอบครัวของเขาด้วย
5. การแบ่งเบาภาระงานบ้าน
การอยู่ชายคาเดียวกัน คือการที่ทุกคมีสิทธิในบ้านฉันใด ภาระหน้าที่ในบ้านก็เป็นหน้าที่ของทุกคนฉันนั้น โดยเฉพาะงานบ้านที่มีความละเอียด จนดูเหมือนว่าจะเหมาะกับผู้หญิง ดังนั้น คุณพ่อบ้านทั้งหลายควรแบ่งเบาภาระของภรรยาบ้าง ให้เหมือนกับว่าคุณและคู่รักเป็นรูมเมทกันที่ต้องดูแลห้องร่วมกัน ส่วนคุณภรนยา ถ้างานทั้งหลายมันเหนื่อยและหนักจริงๆ ก็อย่าเกรงใจที่จะขอทำข้อตกลงร่วมกัน ตัดความเป็นชายหญิงออกไปแล้วมองว่าสิทธิในบ้านมีเท่ากัน หน้าที่ในบ้านก็ควรเท่ากันด้วย
สุดท้ายนี้ แอดก็อยากจะฝากบอกไว้ว่า “ไม่มีรักไหนที่เพอร์เฟ็กต์หรอกค่ะ ” ทุกคู่ล้วนแล้วแต่เจอปัญหาและบททดสอบในชีวิตมาด้วยกันแล้วทั้งสิ้น ทว่าสิ่งสำคัญมันอยู่ตรงที่ทั้งคุณและเขาพร้อมจะจับมือ ก้าวข้ามผ่านหินผาแห่งปัญหาไปด้วยกันหรือเปล่า บางคู่เจออุปสรรคแรกหรือกระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยกธงขาวยอมแพ้ไปซะแล้ว ซึ่งเราอยากให้คุณคิดเสียใหม่ว่า อุปสรรคต่าง ๆ นี้แหละ คือบทพิสูจน์ความรักชั้นดี
Cr. Gossipstarmthai
สำนักข่าววิหคนิวส์