Naewna โจรใต้ยังเหิมเกริมไม่หยุดออกปฏิบัติการก่อความไม่สงบตลอดคืนวันที่ 25 ธันวาคมต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ในพื้นที่จ.นราธิวาส และยะลา รวมทั้งสิ้น 7 จุดภายในคืนเดียว โดยที่อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้วางแผน และกระจายกำลังกันก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งการลอบวางเพลิง ยิงถล่มจุดตรวจ เผายางรถยนต์และตัดต้นไม้ขวางถนน
คนร้ายลอบเผาเสาสัญญานดีแทค
โดยจุดแรก คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้นำยางรถยนต์ไปจุดไฟเผาตู้คอนเทรนเนอร์ของเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือระบบ ดีแทค ซึ่งตั้งอยู่บ้านต้นไม้สูง ม.2 ต.ปะลูรู อ.สุไหงปาดี ทำให้ระบบการส่งสัญญาณได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ โดยเจ้าหน้าที่พบเศษซากของยางรถยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้ไว้เป็นหลักฐาน
ยิงจุดตรวจ-ฐานทหารพราน
ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มจุดตรวจฉัตรวาริน ตั้งอยู่แยกบายพาสทางไปน้ำตกฉัตรวาริน เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารพรานที่ 4812 ได้ร่วมสนธิกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดตรวจร่วมกัน เกิดการปะทะดุเดือดนานประมาณ 20 นาที โดยเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
ใช้เอ็ม79ถล่มหอคอย2นัด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 เพื่อยิงถล่มหอคอย จำนวน 2 นัด กระสุนปืนพลาดเป้าไปถูกกิ่งไม้ใหญ่หัก นอกจากนี้ห่างไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่ารกทึบฝั่งตรงข้ามของถนนหน้าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 ตกอยู่จำนวน 2 จุดใหญ่ รวมจำนวนกว่า 30 ปลอก
เผายางรถยนต์-ตัดต้นไม้ขวางถนน
สำหรับส่วนจุดที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบเผายางรถยนต์และตัดต้นไม้ขวางถนน คือ บริเวณถนนบายพาสบ้านไอบาตู ม.4 ต.โต๊ะเด็ง และบริเวณถนนจารุเสถียรสายสุไหงโก-ลก – สุไหงปาดี ช่วงบริเวณบ้านบาโงฮูมอ ม.5 ต.กาวะ โดยทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่พบซากเศษชิ้นส่วนของยางรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ รวมทั้งเศษกิ่งไม้จำนวนหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายออกจากผิวการจราจรตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา
นอภ.-ผกก.ลงพื้นที่คุมสถานการณ์
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี และ พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.สุไหงปาดี ทั้ง 2 คน สามารถลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ร้ายเอาไว้ได้ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนอาศัยอยู่ภายในบ้านพักเกรงอาจจะได้รับอันตราย หากกลุ่มคนร้ายได้แฝงตัวเคลื่อนไหวเพื่อลอบสร้างความปั่นป่วนซ้ำ
โจรใต้แบ่ง3กลุ่มโจมตีพร้อมกัน
ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์ เชื่อว่า คนร้ายได้วางแผนเป็นระบบในการแยกย้ายกันก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยคนร้ายได้แยกย้ายออกปฏิบัติการณ์เป็น 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มที่ 1 แฝงตัวนำยางรถยนต์ไปเผาที่สถานีทวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือระบบดีแทค
กลุ่มที่ 2 ซึ่งมี 2 ชุด โดยชุดแรกยิงพลุสีเพื่อส่งสัญญาณให้คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมถนนฝั่งตรงกันข้ามกันจุดตรวจ ใช้เอ็ม.79 และเอ็ม.16 ยิงถล่มใส่หอคอย แต่โชคดีเอ็ม.79 พลาดเป้า ทำให้ อส.ทพ.ตะวัน เมฆารัฐ ซึ่งเข้าเวรรักษาการณ์อยู่บนหอคอย ได้ส่งสัญญาณให้ จ.ส.ต.อนุชา ขุนทองเพชร หัวหน้าจุดตรวจ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ปะทะกับกลุ่มคนร้าย เป็นเวลานานกว่า 20 นาที เมื่อคนร้ายเห็นว่าไม่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ จึงได้นำกำลังล่าถอยไป โดยได้จุดประทัดยักษ์ที่บรรจุใส่ไว้ในกล่องท็อปเปอร์แวพลาสติกสีฟ้า ในเส้นทางหลบหนีเพื่อข่มขวัญไม่ให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม
ชาวบ้านโดนลูกหลงบาดเจ็บ4ราย
ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 3 ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่บริเวณรอบนอกของจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด ได้แยกย้ายกันนำยางรถยนต์มาเผาและตัดต้นไม้ขวางถนน เพื่อเป็นการสกัดกั้นไม้ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือจุดตรวจฉัตรวารินที่ถูกกลุ่มคนร้ายสุ่มโจมตี ส่งผลทำให้ประชาชนที่ขี่รถ จยย.ไปตามถนนทั้ง 2 เส้นทาง ต้องชนกันกิ่งไม้ที่ขวางถนนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไป จำนวน 4 คน ประกอบด้วย น.ส.นาเดีย แวหะมะ นายอายุบ สะแปอิง น.ส.ศศิธร อยู่คุ้ม และ ด.ญ.จัสมิน รัตนาพร
ลอบกัดซุ่มยิงทหารเจ็บ4ชาวบ้าน1
เวลา 09.40 น. ร.ต.ท.กิตติ ใจหาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4912 บนถนนสายบ้านดาฮง – บ้านบิโล๊ะ ม.4 ต.เชิงคีรี ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และชาวบ้านถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 1 คน
ส่งต่อรพ.นราธิวาสราชนครินทร์
สำหรับรายชื่อคนเจ็บประกอบด้วย 1. ส.อ.ธนกร ตันนิสัย 40 ปี 2. ส.อ.วิษณุ มือสันทัด 37 ปี 3. อส.ทพ.กำจร ตันมา 35 ปี 4. อส.ทพ.วิษณุ ชำนาญนา 29 ปี ซึ่งทั้ง 4 นาย ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่แขน หัวไหล่และลำตัว ส่วนชาวบ้านซึ่งถูกลูกหลง คือ นางตูแวอาแอเสาะ ตาลีโป๊ะ โดยถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณสีข้างขวา อาการไม่สาหัสมากนัก เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องแล้ว จะส่งทหารทั้ง 4 นาย รักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
สภาพรถโดนยิงจนเป็นรูพรุน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณพงหญ้ารกทึบริมถนนมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 ตกอยู่จำนวนกว่า 10 ปลอก ส่วนบริเวณสวนยางพาราตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ 4 ประตู ทะเบียน 4580 ชุมพร ของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณฝากระโปรงหน้า กระจกหน้า ตัวถังด้านซ้ายแตกและเป็นรูพรุน โดยภายในห้องโดยสารเจ้าหน้าที่พบกองเลือดกระจัดกระจายอยู่ที่บริเวณเบาะนั่ง ซึ่งถูกเพื่อนทหารได้ขับมาจอดไว้ที่ สภ.สรีสาคร
เพิ่งกลับจากจากไปซื้อเสบียง
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ธนกร ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกมาจากฐาน โดยมีเพื่อนทหาร รวม 4 นาย นั่งโดยสารเพื่อเดินทางไปซื้อเสบียงอาหารที่ตลาด อ.ศรีสาคร ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงถล่มใส่รถยนต์กระบะ ทำให้ ส.อ.ธนกร และเพื่อนทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และกระสุนปืนของคนร้ายได้พลาดเป้าไปถูกนางตูแวอาแอเสาะ ที่กำลังกรีดยางพาราอยู่ในสวนฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บไปด้วย ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป
ชาติชั่ว!ดักบึ้มคุ้มกันพื้นที่เจ็บอีก2
ต่อมาเมื่อเวลา 10.12 น. ของวันเดียวกันนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารพรานที่ 4812 ที่เข้าสนับสนุนยังที่เกิดเหตุ ได้จอดรถยนต์หุ้มเกราะวีว่าไว้ที่บริเวณใกล้หัวสะพานบ้านดาฮง ม.4 ต.เชิงคีรี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ก.ม. เพื่อคุ้มกันพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ได้ลงจากรถและได้ร่วมพูดคุยกับชุดชรบ.จำนวนหนึ่งอยู่นั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบจุดชนวนระเบิดที่แฝงตัวลอบนำไปวางไว้ที่ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชรบ.รวม 2 นาย ถูกแรงอัดของระเบิดมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่อาจจะมีการประชุมวางแผนเพื่อสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมๆกัน
ถล่มเสาไฟฟ้าเบตงไฟดับทั้งเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เช่นเดียวกับที่จ.ยะลา กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้ลอบวางระเบิด เสาไฟฟ้าบริเวณ บ้าน กม.26 หมู่ 1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา แรงระเบิด รถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 คัน เสาไฟฟ้าหักล้ม ได้รับความเสียหาย 5 ต้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ไฟฟ้าดับทั้งเมือง อ.เบตง
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุฝ่ายความมั่นคงจังหวัดยะลา สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด ตรวจสอบจยย. รถยนต์ ทุกชนิด ที่จะเข้ามายังตัวเมืองยะลา อย่างละเอียด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ในเขตเทศบาลนครยะลาและเขตชุมชน ในตัวเมืองยะลา
สั่งเฝ้าระวังก่อเหตุช่วงปีใหม่
นอกจากนนี้ฝ่ายความมั่นคง จ.ยะลา ยังคงแจ้งเตือนให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ให้มีความระมัดระวังในการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ในช่วงเทศกาลปีใหม่2561 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ยังคงพยายามก่อเหตุเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายเจ้าหน้าที่
ตร.เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ว่า พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ส่วนสาเหตุของการระเบิดนั่นน่าเชื่อว่าเกิดจากการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
บิ๊กแป๊ะสั่งเพิ่มมาตรการป้องกัน
“ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และได้มีข้อสั่งการให้เพิ่มการเฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรมเป็นหลัก หากเกิดเหตุขึ้นให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนให้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุให้ทันท่วงทีเพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนในพื้นที่” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
นายกฯขอสื่ออย่าขยายข่าวโจรใต้
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อเหตุหลายจุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ว่า ถือเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งสื่อก็ทราบอยู่แล้วว่าเขาต้องการขยายพื้นที่ข่าว และประชาสัมพันธ์เพื่อกดดันรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญคือทำให้เกิดผลเสียต่อการลงทุนทางเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน อย่าไปขยายให้เขาเลย มันไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น
ส่วนมาตรการด้านความมั่นคงนั้น นายกฯ กล่าวว่า ก็จะเพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพราะเหตุที่เกิดมันย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรบนท้องถนนแน่นอน ก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือจะได้เกิดความปลอดภัย
สำนักข่าววิหคนิวส์