“บิ๊กป้อม” ฟื้น “ปรองดอง” ส่งท้าย โรดแมพ เตรียมเรียก คณะกก.ปรองดองฯ ถก 8 มค.นี้ หวังพึ่ง “น้องเกี่ยวก้อย” สร้างความรับรู้ “สัญญาประชาคม” เชื่อความ ขัดแย้งในสังคม จะลดลงได้ แต่ไม่หมด/ ยันเลือกตั้ง ปลายปี61
30 ธันวาคม 2560 Wassana Nanuam – พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง กล่าวถึง ทิศทางสร้างความปรองดองปี2561 เป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ว่า วันที่ 8 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ ถึงการติดตามความคืบหน้าและแนวทางการสร้างความปรองดอง
ทั้งนี้ ต้องแยกกระบวนการปรองดอง ออกเป็น2ส่วน
1. ความเห็นร่วมของภาคประชาชนว่าปัญหาความเดือดร้อน และความเหลื่อมล้ำของประชาชน ที่เสนอเข้ามา โดยเราจะเอาความเห็นร่วมนี้เสนอไปที่รัฐบาล จากนั้นก็มอบหมายให้แต่ละกระทรวงแก้ไขปัญหา ตามอำนาจหน้าที่ ถ้าปัญหาใดต้องใช้เวลาก็ต้องบรรจุตามแผนงาน งบประมาณเพื่อแก้ไขต่อไป
ส่วนอะไรที่ทำได้เลย เราก็จะดำเนินการ โดยปัญหาความเดือดร้อนจากความเหลื่อมล้ำของประชาชน ที่เราได้มาจากความเห็นร่วมของประชาชนจากการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ก็จะนำเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาผ่านกลไกประชารัฐซึ่งมีทั้งภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนร่วมกันดำเนินการ
2. “สัญญาประชาคม” ที่เพิ่งดำเนินการเสร็จก็จะนำไปสร้างความรับรู้และความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยเราดำเนินการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะขยายตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล จนถึงหมู่บ้าน โดยใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) พร้อมสร้างการรับรู้ไปจนถึงจิตสำนึกของประชาชนว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำและสิ่งที่ทำไปแล้วจะไปกระทบ กลายเป็นความขัดแย้ง และปัญหาสังคม จะป้องกันได้อย่างไร
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ดังนั้นเราต้องทำให้สัญญาประชาคมฉบับนี้ต้องอยู่ในจิตสำนึกของประชาชน
ขณะเดียวกันในกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานต่างๆจะนำเอาสาระสำคัญประชาคมฉบับนี้ ไปปรับใช้ให้เข้ากับแผนงานของหน่วยงานนั้นๆ เช่น เรื่องความเหลื่อมล้ำ ก็ถูกนำไปบรรจุในแผนการของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ การสร้างความสามัคคีปองดอง เราจะทำอย่างเงียบๆ เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสัญญาประชาคมไปเรื่อยๆ โดยมีมาสค็อต “น้องเกี่ยวก้อย” ลงพื้นที่ทั้งต่างจังหวัด และกรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนก็ตอบรับอย่างดี และเข้าใจในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกภาคส่วน ไม่ละเลยการปรองดอง ก็เชื่อว่า ในอนาคตปัญหาความขัดแย้งในสังคมจะลดลงได้ แม้ว่าจะไม่หมดก็ตาม
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ความเห็นร่วมของประชาชนส่วนใหญ่พบว่า ยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเชื่อมั่นในกรอบกติกาสังคม รวมทั้งการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ดังนั้นคนส่วนน้อยที่กระทำเกินกรอบกฎหมาย ก็ต้องกลับมาทบทวนตนเอง เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และหันมาปรองดองกับประชาชนส่วนใหญ่ที่เขายึดมั่นด้วย เพื่ออยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ
แต่ถ้ากระบวนการสร้างความปรองดองสามารถทำได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมพ ของรัฐบาลและคสช. หรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าว เชื่อว่าทำได้ และเดินควบคู่กันได้ เพราะเราดำเนินการบนพื้นฐานความถูกต้องหวัง ความเป็นจริง และความเป็นธรรม
พร้อมทั้งเชื่อว่าการสร้างความปรองดองเป็นความฝันของประชาชนทุกคนในประเทศ เราไม่อยากอยู่บน ความขัดแย้งกันอีกแล้ว
เมื่อถามอีกว่า ถ้าเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และอยู่บนพื้นฐานเหตุผล ในสังคม จะสร้างความมั่นใจได้หรือไม่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกรอบที่วางไว้ เลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2561 พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ยืนยันว่าการ เราตั้งมีแน่นอนตาม
กรอบโรดแมพ แต่การสร้างความสามัคคีปองดองถ้าสังคมมีความสงบ เข้าใจกัน ยอมลด ยอมถอย เพื่อเห็นกับประโยชน์ส่วนรวมผมก็คิดว่าอะไรต่างๆ ก็จะสามารถเดินไปได้ ทั้งการเลือกตั้ง การปฏิรูปประเทศ และการบริหารงานของรัฐบาล เพราะฉะนั้น ถ้าเราให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการปรองดอง และปฏิบัติตามสัญญาประชาคมความขัดแย้งในอนาคตจะไม่เกิดขึ้นในที่สุด
สำนักข่าววิหคนิวส์