พายุฤดูหนาวที่พัดถล่มพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ทำให้เกิดหิมะตกอย่างหนัก ลมแรง และคลื่นสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การเดินทางก็ประสบภาวะชะงักงัน มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
พายุฤดูหนาวที่มีกำลังแรง หรือ ที่เรียกกันว่า”ระเบิดไซโคลน”ซึ่งพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้การสัญจรทางอากาศในสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ตกอยู่ในสภาพที่ปั่นป่วน เนื่องจากเครื่องบินโดยสารของสายการบินต่าง ๆ กว่า 4,300 เที่ยวบิน ถูกระงับการเดินทาง อีก 2,000 เที่ยวเลื่อนการเดินทาง สนามบิน 2 แห่งในนิวยอร์กปิดให้บริการทั้งหมด หลังเกิดหิมะตกหนักวัดปริมาณได้ 6 ถึง 10 นิ้ว
ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเผย สถานการณ์จะยังคงเลวร้ายลงเรื่อย ๆ แม้ว่าพายุฤดูหนาวจะพัดผ่านไปแล้ว แต่อุณหภูมิในวันนี้และพรุ่งนี้จะลดลงไปอีก ขณะที่ท้องถนนยังคงกลายเป็นน้ำแข็ง
นอกจากการสัญจรทางอากาศจะหยุดชะงักแล้ว การสัญจรทางบก โดยบริษัทเดินรถไฟแอมแทร็คของสหรัฐฯ ได้ลดจำนวนเที่ยวการเดินรถลง ขณะที่รถบัสที่วิ่งระหว่างรัฐ ได้ถูกสั่งระงับทั้งหมด ขณะที่พยากรณ์อากาศคาดว่า พายุฤดูหนาวที่พัดด้วยความเร็ว 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะมีต่อเนื่องไปจนถึงปลายสัปดาห์นี้ โดยชาวอเมริกันที่อยู่ในเส่้นทางผ่านของพายุมีเกือบ 60 ล้านคน
อิทธิพลของพายุฤดูหนาวในครั้งนี้นอกจากจะทำให้เกิดหิมะตกหนักและลมแรงแล้ว ยังทำให้เกิดคลื่นสูงซัดฝั่งที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยที่เมืองบอสตั้น รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยที่ท่าเรือบอสตั้นเกิดคลื่นสูงซัดฝั่งถึง 4.6 เมตร ซึ่งนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1978 หรือเมื่อ 40 ปีก่อน
หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้ท้องถนนในบอสตันมีหิมะกองทับถมกันหนาถึง 18 นิ้ว คลื่นทะเลที่ซัดเข้ามายังทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณชายฝั่ง น้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมก็กลายเป็นน้ำแข็ง
สภาพอากาศหนาวเย็นเกิดขึ้นในครั้งนี้ได้แผ่ลงไปถึงทางใต้ที่รัฐฟลอริดา มีคนโพสต์ภาพอิกัวนา ที่ถูกอากาศหนาวเย็นกลายเป็นน้ำแข็งลงบนโลกออนไลน์ ที่ฟลอริดานี้เมื่อวานนี้เกิดหิมะตกหนักเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
สำนักข่าววิหคนิวส์