บางคนบอกว่า “ตู้คีบตุ๊กตา” คือการพนัน หรือบ้างก็บอกว่ามันใช้ฝีมือ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มันเสพติดสุดๆ โดยเฉพาะหลังคีบขึ้นมาแล้วทำท่าจะได้แต่จบที่ล้มเหลว
เช่นเดียวกับ Ya สาวชาวจีนวัย 27 ปี จากมณฑลกวางตุ้งที่แม้เดิมทีจะทำอาชีพช่างภาพและมองว่าการเล่นตู้คีบตุ๊กตามันไร้สาระ แต่หลังจากได้สัมผัสมันเพียงครั้งเดียวก็ค้นพบว่าตัวเองเสพติดมันไปซะแล้ว แถมหลังจากคีบตัวแรกสำเร็จมันดันเรียกพวกมาอีกกว่า 6,999 ตัว!?
เรื่องราวของ Ya มันเริ่มขึ้นเมื่อปี 2016 ได้เดินไปเจอกับตู้คีบตุ๊กตาที่มีเป็ดสีเหลืองแสนน่ารักอยู่ข้างใน แน่นอนว่าสาวๆ เมื่อตุ๊กตาเป็ดก็จะต้องอยากได้เป็นธรรมดา แต่ด้วยความคิดครั้งแรกที่เธอคิดว่ามันไร้สาระและมีไว้เพื่อใช้หาเงินเท่านั้น เธอจึงไม่อยากเล่น จนกระทั่งความอยากมันชนะหลักความคิดของเธอ เธอจึงหลวมตัวหยอดเหรียญไปหนึ่งครั้ง
นับจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอคนพบว่า การคีบตุ๊กตามันสนุกกว่าที่คิดมันได้คิดและใช้ความสามารถพร้อมกับโชคอีกนิดหน่อย ซึ่งเธอบอกว่ามันก็คล้ายกับการเล่นดนตรีที่ต้องฝึกหลายๆ ส่วน รวมถึงการจับเทคนิในการคีบ
เธอบอกว่าช่วงแรกที่เธอเริ่มเข้าถึงมันเธอยังไม่มั่นใจมากนัก เธอใช้เวลาไปกับยืนดูและเรียนรู้เทคนิคของคนอื่นมากกว่า แต่เวลาผ่านไปเธอก็พบว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนัก เธอจึงจัดการซื้อตู้คีบตุ๊กตามาไว้ที่บ้านเพื่อฝึกฝน
แต่เรื่องมันกลับพีคยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอออกไปคีบตุ๊กตาจริงๆ ซึ่งเธอพบว่าตู้คีบตุ๊กตามันมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ฉะนั้นมันจึงไม่เหมือนกับตู้ที่เธอซื้อมาฝึก เธอจึงต้องเริ่มฝึกให้มากกว่าเดิม ด้วยการออกมาคีบ การค้นคว้าในเน็ตและอื่นๆ อีกมากมาย
เวลาผ่านไป Ya ค้นพบว่าการเอาที่คีบค่อยๆ เขี่ยให้ตุ๊กตาร่วงลงมามันได้ผลดีกว่า ซึ่งนับจากการจับทริคได้เธอก็เริ่มกวาดตุ๊กตาจำนวนมากจากตู้คีบ เธอใช้เวลาไม่นานในการกวาดตุ๊กตาจากห้างหนึ่งไปอีกห้างหนึ่ง จนเวลาผ่านไปเธอค้นพบว่าตุ๊กตาเธอนั้นมีมากเกินไปที่จะเก็บไว้ในห้องเช่า เธอจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่เพื่อไว้เก็บตุ๊กตา
เธอใช้เงินไปกว่า 40,000 หยวนในการคีบตุ๊กตา (คิดเป็นเงินไทยกว่า 200,000 บาท) ซึ่งเราคงคิดว่าที่บ้านเธอคงจะไม่พอใจแน่ๆ แต่กลับกันพ่อแม่เธอดันโอเคกับมันเสียมากกว่า แม้ว่าตุ๊กตาจะทำให้พวกเขาไม่มีที่นั่งหรือที่นอนเลยก็ตาม
แม่ของ Ya นั้นสนับสนุนลูกสาวของเธอ เพราะเธอมองเห็นว่าลูกสาวกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ทำและไม่ได้เดือดร้อนคนอื่น และเมื่อวันเวลาผ่านไปเธอกลายเป็นเหมือนคนดัง เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอจะมีถุงตุ๊กตาที่เป็นผลงานของเธอติดตัวตลอด ทำให้คนที่อยากจะคีบตุ๊กตาเป็นเข้ามาขอถ่ายรูปและขอเทคนิคเสมอๆ
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เธอตระหนักได้ว่าตุ๊กตาของเธอมันเยอะมากๆ เยอะจนอยู่ไม่ได้แล้วเธอจึงจัดแจงเก็บตุ๊กตาทุกตัวใส่ถุงและนำมันไปขายตามที่ต่างๆ
ส่วนเงินทั้งหมดที่เธอได้มานั้นเธอจะนำมันไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลทั้งหลาย ซึ่งเธอบอกว่ามันสร้างความสุขกับเธอมากทั้งตอนคีบและตอนบริจาค…
Cr. Maginside
สำนักข่าววิหคนิวส์