ไลฟ์สไตล์ » #เมื่อนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใน ‘ซ่องในบังคลาเทศ’ แต่กับได้ภาพแบบนี้ ถึงรู้ว่าโสเภณีในนั้น….

#เมื่อนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใน ‘ซ่องในบังคลาเทศ’ แต่กับได้ภาพแบบนี้ ถึงรู้ว่าโสเภณีในนั้น….

29 January 2018
1270   0

ความอยุติธรรมที่แสนโหดร้าย อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นงานแบบใด ถ้าใช้แรงของตัวเองเพื่อให้ได้เงินมา ก็ไม่มีอะไรต้องอาย แต่ใน “ซ่อง” ที่ขึ้นป้ายว่าถูกกฎหมายกลับปฏิบัติกับผู้ขายบริการอย่างไม่เท่าเทียมนั่นถึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ บังคลาเทศเป็นประเทศมุสลิมที่มีบางพื้นที่มีสถานขายบริการถูกกฎหมาย แต่พอนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ก็พบว่า เบื้องหลังสถานที่ถูกกฎหมายเหล่านี้มีความไม่เท่าเทียมอยู่มากมาย!

Kandapara สถานขายบริการที่ใหญ่ที่สุดในบังคลาเทศ มันตั้งอยู่ที่เมือง Tanger ซ่องแห่งนี้มีประวัติยาวนานมากถึง 200 ปี

แม้ว่าสถานบริการแห่งนี้จะถูกสั่งให้ปิดชั่วคราวลงในปี 2014 แต่เมื่อยกเลิกไปหญิงขายบริการก็ไม่รู้จะไปทำงานที่ไหน ต่อมาก็เลยเปิดขึ้นใหม่ด้วยองค์กรเอกชน

จากคำบอกกล่าวของ Sandra Hoyn นักข่าวที่เข้าไปในพื้นที่ Kandapara เป็นซ่องที่เหมือนเมืองเล็กๆในเมืองใหญ่อีกที ในนั้นมีกฏระเบียบของตัวเอง เหมือนเป็นโลกอีกโลกนึง ผู้หญิงที่ทำงานขายบริการในนั้นไม่ได้รับสิทธิ์ทีประชาชนทั่วไปควรจะได้ พวกเธอไม่มีอิสระ และไม่มีสิทธิขั้นพื้นฐานใดๆ เด็กผู้หญิงที่นี่ทุกคนมาจากครอบครัวที่ยากจน และมีหลายๆคนที่ถูก “ขาย” มาที่นี่ ปกติแล้วพวกเธอไม่สามารถออกไปไหนได้ ไม่สามารถเก็บเงินที่ตัวเองหาไว้ได้ ต้องเอาเงินจากการ “ขายร่างกาย” ของตัวเองให้เจ้านาย

ปกติแล้วผู้จะมาทำอาชีพขายบริการต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่เด็กผู้หญิงหลายๆคนที่นี่อายุแค่ 12-14 ปี พวกเธอจะใช้สเตียรอยด์ทำให้ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ

หญิงสาวคนนี้ชื่อ Asma ปีนี้เธอเพิ่งอายุ 14 ปี เธอเกิดในซ่อง และเนื่องจากโดนหัวเราะเยาะมาตั้งแต่เด็กว่าแม่เป็นผู้หญิงขายบริการเธอก็เลยเลิกไปโรงเรียน พออายุ 12 ก็เริ่มทำงานเต้นรำ ปีนี้ครบ 14 ปีก็เริ่มทำงานเต็มตัว

เหล่าผู้หญิงที่ทำงานขายบริการใน Kandapara บอกตัวเองว่า ต้อง “ขายร่างกาย” จนเต็มที่แล้ว ถึงจะไถ่ตัวเองออกมาได้ ซึ่งอาจกินเวลาถึง 5 ปี แม้ว่าหลังจากไถ่ตัวออกมาได้แล้ว จะสามารถออกมาจากซ่องได้ แต่ผู้หญิงเหล่านี้ก็ไม่มีความสามารถอื่นๆ ทำให้ผู้หญิงส่วนมากเลือกที่จะทำงานต่อไปที่นั่นเพื่อหาเงินส่งให้ที่บ้าน

Kajol เป็นคุณแม่ของลูกน้อยวัย 6 เดือน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าจะประมาณ 17 เธอโดนบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 9 ขวบ ต่อมาก็โดนน้าขายมาที่ซ่อง หลังคลอดได้ 2 สัปดาห์เธอก็ต้องกลับไปรับแขก แต่เนื่องจากมีลูกคอยรบกวน เธอก็เลยทำงานไม่คล่องนัก

ตอนที่นักข่าวอย่าง Sandra Hoyn เพิ่งเข้ามาในซ่องแห่งนี้ เธอแทบจะไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าในนี้ได้เลย โดยเฉพาะพวกที่มาจากครอบครัวร่ำรวยจะไม่ยอมโดนถ่ายรูปเลย แต่ก็มีแขกบางคนไม่แคร์ที่จะโดนถ่ายรูป พวกเขาไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ผิดแม้แต่น้อย ไม่จำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆ

รายได้ของผู้หญิงขายบริการแต่ละคนขึ้นอยู่กับความงามและความสะดวกสบายของห้องพักเธอ พวกเธอสามารถมีรายได้ 11 – 22 ดอลล่าห์สหรัฐต่อวัน (350 – 680 บาท) คือได้เงินประมาณ 3 ดอลล่าห์สหรัฐ (93 บาท) จากการรับแขก 1 คน

Sumaiya ในวัย 17 ปี โดนแขกขาประจำที่เป็นแฟนของเธอตีที่เบ้าตาจนเลือดออก เนื่องจากแฟนขอเธอแต่งงานแต่เธอปฏิเสธ สาเหตุที่เธอปฏิเสธก็เพราะเธอกลัวว่าหลังแต่งเขาจะหลอกเอาเงินเธอไปจนหมด

ระหว่างที่ Sandra เข้าไปสัมภาษณ์ก็พบว่า แม้ว่าเด็กสาวแต่ละคนจะมีเบื้องหลังเรื่องราวความหดหู่ของชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความเข้มแข็ง และบังคับตัวให้มีความสุขแม้จะมีความทุกข์อย่างมาก พวกเธอต่อสู้กับชะตากรรม เพื่อความสุขที่สุดในชีวิต

Papia วัย 18 ที่ร่วมหมอนกับผู้ชาย 2 คนเล่าว่า พ่อแม่เสียไปตั้งแต่เธอยังเล็ก ต่อมาเธอกับสามีก็โดนจับเข้าคุกเพราะเสพเฮโรอีน จากคำบอกเล่าของเธอ ตอนที่อยู่ในคุกเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครมาตบตีเธอ

เด็กผู้หญิงที่ทำงานที่นี่หาเงินให้ซ่องจนคุ้ม เมื่อพวกเธออายุมากจะมีเงินพอซื้อบ้านซึ่งเป็นความฝันของพวกเธอได้ พวกเธอไม่คิดพึ่งผู้ชาย พวกเธอพึ่งพาตัวเองและต้องการให้การศึกษาลูกให้ดี เพื่อให้ลูกๆมีชีวิตที่ดีกว่าตัวเอง

หญิงขายบริการที่นี่มากมายที่มีลูกค้าขาประจำ หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่ปฏิเสธการขอแต่งงาน เพราะเธอไม่เชื่อว่าหลังแต่งงานสามีจะให้เธอเก็บเงินเอง เธอยอมที่จะทำงานเป็นผู้หญิงขายบริการแบบไม่มีพันธะดีกว่า

เด็กผู้หญิงบางคนเคยทำงานประเภทอื่น แต่ต่อมาก็พบว่าทำงานขายบริการในซ่องเงินดีกว่า ก็เลยเปลี่ยนมาทำที่นี่

ในซ่องอย่าง Kandapara ผู้หญิงทุกๆคนมีเรื่องราวของตัวเอง ส่วนใหญ่มาค้าประเวณีโดยไม่สมัครใจ แม้ว่าจะไถ่ตัวเองออกมาได้ แต่เมื่อโดนสังคมบีบบังคับ พวกเธอก็ทำได้แค่ทำงานขายร่างกายต่อไป สิ่งที่พวกเธอต้องเจอทำให้ชีวิตของเราสบายไปเลยจริงๆ

ขอขอบคุณที่มาจาก : LIEKR

สำนักข่าววิหคนิวส์