ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายในละคร เพราะเธอคนนี้ผ่านความยากลำบากและเรื่องราวแย่ๆ มากมายทำเอาชีวิตแทบทรุดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ต้องระเหเร่ร่อนตามไซต์ก่อสร้าง แย่งข้าวหมากิน พ่อติดคุก แม่เป็นอัมพฤกษ์ โดนทวงหนี้ จนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย มาดูกันว่าดาราสาวที่สู้ชีวิตคนนี้คือใคร
ดาราสาวที่ได้กล่าวมาคือ ตุ๊กตา-อุบลวรรณ บุญรอด นั่นเองเองคะ หลายคนอาจจะรู้จักเธอดีในฐานะดารานักแสดงและพิธีกรในวงการบันเทิงที่มีผลงานมานักต่อนัก แต่เบื้องหลังของเธอใครเลยจะรู้ว่าในวัยเด็กเธอต้องพบเจอและผ่านอะไรมาบ้างจนกว่าจะประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้
นอกจากนี้แล้วปัจจุบันเธอยังทำรายการทางช่องเคเบิลซึ่งเป็นรายการที่เน้นช่วยเหลือคนที่ลำบากให้ต่อสู้ชีวิต อีกทั้งยังเปิดอบรมอาชีพนวดหน้าด้วยสองมือ “ศาสตร์ยกหน้า ด้วยการกดจุดรีดน้ำเหลือง” ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนที่มาเรียนสามารถนำไปทำเป็นอาชีพได้อีกด้วย
นับว่าเรื่องราวของเธอข้างต้นที่เราหยิบยกมานั้นสามารถเป็นอุทาหรณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้ได้ดีทีเดียว
หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่กำลังสิ้นหวัง ไร้ซึ่งกำลังใจอยู่ เชื่อว่าถ้าได้อ่านเรื่องราวของเธอแล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ดังที่เธอได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ชีวิตมันมีทั้งทุกข์และสุข แน่นอนมันต้องมีช่วงวิกฤตเพราะคนเรามีต้นทุนมาไม่เท่ากัน แต่อยากให้ทุกคนมองคนที่ลำบากกว่าเรา ถ้าเราไปมองคนที่ดีกว่าเรา เราจะมีแต่ความอิจฉาริษยา แต่ถ้าเรามองคนที่แย่กว่าเรา กำลังใจเราจะเกิดว่าเราโชคดีมากที่เราไม่เป็นแบบเขา”
โดยเธอเล่าว่าในวัยเด็กเธอต้องพบเจอและผ่านอะไรมาบ้างจนกว่าจะประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้พ่อแม่ของตุ๊กตาเป็นกรรมกรก่อสร้าง แล้วก็ไม่ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง เราจะต้องระเหเร่ร่อนตามบ้านสังกะสีที่เขาสร้างตามไซต์งาน จำได้ว่าเราอยู่มาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ เราเห็นพ่อแม่ทำงานแบบนี้ซึ่งเขาก็จะได้เงินวันละไม่กี่บาท น้อยมากๆ ทำก่อสร้างอย่างเดียวมันไม่พอจะกิน เพราะว่างานที่ทำไม่ได้เงินทุกวัน และต้องสร้างเสร็จก่อนเขาถึงจะมาจ่ายเงินเป็นงวดๆ เขาไม่ได้จ่ายรายวัน ก็ต้องหาเงิน หางาน หาอาชีพอื่นเพิ่ม
อย่างเช่น ตอนกลางวันทำงานก่อสร้าง ตอนกลางคืน พ่อกับแม่ก็ต้องรับจ้างทำอย่างอื่นด้วย บางทีกว่าเราจะได้เงิน เรียกได้ว่าไม่มีข้าวกินกันเลย ต้องไปหาข้าวที่เขาทิ้ง ข้าวบูด เวลาข้าวบูดเขาก็จะทิ้ง แม่ก็จะไปเก็บมาตากแดด ตากให้แห้งเพื่อให้กลิ่นบูดหายไป พอแห้งจนมันแข็งกรังแล้วมันจะเหมือนข้าวตังแห้งๆ เขาก็จะเอามาต้มน้ำ ส่วนเนื้อแม่เขาจะเอาให้พ่อกับตุ๊กตากิน ส่วนแม่จะกินน้ำ
เพื่อให้พ่อกับลูกมีแรง ลำบากถึงขนาดที่พ่อต้องไปรับจ้างตักส้วมคือสมัยก่อนยังไม่มีรถดูดส้วม แล้วส้วมก็จะเป็นส้วมซึม ที่เป็นวงๆ บ้านใครสูงหน่อยก็ตั้งสูงนิดหนึ่ง พ่อต้องกระโดดลงไปในถังส้วม ก็จะต้องไปตักแล้วยื่นขึ้นมาแล้วก็ส่งให้แม่กับตุ๊กตาเอาไปเททิ้ง หนอนเยอะแยะเต็มหัวพ่อเลย มันก็จะต้องไต่อยู่แล้ว เพราะมันเป็นอุจจาระอ่ะเนอะ เราก็ต้องทำเพื่อให้ได้เงินมา
เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงใจให้กับคนที่กำลังท้อได้ดีเลยทีเดียวคะ คนเราชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ สู้ให้สุดแล้วหยุดที่คำว่าพอดี
cr :siamnews