รอง ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่กาญจนบุรีประชุมติดตามคดี CEO บ.อิตาเลียนไทยฯ พร้อมพวกยิงถลกหนังเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มคลอง กลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เผย “เจ้าสัวเปรมชัย” โดนเพิ่มจาก 9 ข้อหาเป็น 10 ข้อหา “ติดสินบนเจ้าหน้าที่” ยัน จนท.ไม่ทราบเส้นทางเสี่ยเปรมชัย เผ่นนอก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 ก.พ.61) Naewna ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.จว.) กาญจนบุรี พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ได้เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และพวกรวม 4 คน โดยมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนระดับจังหวัด พ.ต.อ.ชูชาติ โชคสถาพร รอง ผบก.ศพฐ.7 พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ รองผกก.(สบสวน) กก.5 บก.ปทส เข้าร่วมประชุม
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า วันนี้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชากรตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ตนเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในสำนวนคดีของนายเปรมชัย กรรณสูตร พร้อมพวกที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า ภายในเขตหวงห้ามของเขตรักษาพันสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ก็ได้สั่งการไว้แล้ว
สำหรับขบวนการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งในวันนี้ก็ได้มาคุยเรื่องรายละเอียดและเรื่องการติดตามผลการตรวจของพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อที่จะเอามารวมในสำนวน เพื่อให้สำนวนครบและก็แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้เราไม่ทราบชัดเจนว่านายเปรมชัย จะยังคงอยู่ในประเทศหรือไม่ หรือว่าไปอยู่ที่ใด แต่เมื่อครบกำหนดตามที่ศาลนัด นายเปรมชัย พร้อมพวกก็ต้องมาศาล หรือว่าหากพนักงานสอบสวนเรียกมาเพื่อต้องการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้เรามีประเด็นสงสัยที่จะต้องประสานในการออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในประเด็นรายละเอียดที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาแจ้งเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้นจะต้องเรียกมาสอบปากคำเพราะทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาแจ้งเพิ่มข้อหา
ส่วนกรณีของนายนพดล พฤกษะวัน อดีต ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 6 จ.สงขลา และเป็นที่ปรึกษาของนายเปรมชัย ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)จะเป็นผูเรียกไปให้ปากคำ และจนถึงขณะนี้การตรวจวัตถุยาน ไม่ว่าจะเป็น อาวุธปืน คราบเลือด รวมทั้ง DNA ผลยังไม่อกมาและขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังมีพยานหลักฐานอีกที่เราต้องไปขอจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อนำมามอบให้พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจ
สำหรับรถยนต์ที่นายเปรมชัยกับพวกใช้เป็นยานพาหนะนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำหนังสือขอจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อนำรถออกมาจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ และได้มีการนัดหมายกันว่าพรุ่งนี้ (13 ก.พ.)จะนำออกมา จากนั้น พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จะนำขึ้นรถสไลด์ไปส่งที่พิสูจน์หลักฐานกลางตรวจค้นอย่างละเอียด
ส่วนกรณีที่ว่านายเปรมชัย มอบไฟฉายให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากตรงนี้มาเกี่ยวข้องกับรูปคดีเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า กล้องวงจรปิดในป่านั้นไม่มี แต่ก็ได้พยายามเก็บภาพจากกล้องภายนอกและกำลังรวบรวมรายละเอียดอยู่
ส่วนข้อสังเกตที่ผู้สื่อข่าวถามว่าการมอบไฟฉายให้กับเจ้าหน้าที่ดูเหมือนเป็นการแลกเข้าพื้นที่โดยไม่ใช้ใบอนุญาตหรือไม่นั้น เรื่องนี้คงจะเป็นระเบียบภายในของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เราคงไม่สามารถไปตอบคำถามแทนได้
สำหรับการการตรวจผลทางวิทนยาศาสตร์นั้น ตรงนี้ทาง พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้กำชับเอาไว้แล้วว่า ให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดผลการตรวจ แต่ว่าต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจด้วย เชื่อว่าคงจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด สำหรับพรุ่งนี้ (13 ก.พ.)เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อจำลองเหตุการณ์ โดยฝ่ายของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะนำพิสูจน์หลักฐานไปจำลองอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำรายงาน
ส่วนประเด็นที่ว่ากลุ่มของนายเปรมชัย อาจจะมีมากกว่า 4 คนนั้น ซึ่งจะต้องรอผลรายงานจากพิสูจน์หลักฐานก่อนส่วนเรื่องการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้นขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานไปแล้ว คาดว่าน่าจะสามารถนัดได้ภายในสัปดาห์นี้
“ถ้าไม่มาตามหมาย ก็คงจะต้องออกหมายเรียก ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัวที่ศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องรายงานให้ศาลทราบว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่มา ศาลก็จะได้นำไปประกอบการพิจารณาในการให้ประกัน ซึ่งบอกตามตรงว่าขณะนี้เราไม่ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสี่คนนั้นไปอยู่ที่ไหน เพราะเราไม่ได้ติดตามตัว ซึ่งการรายตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนจะต้องไปรายงานตัวที่ศาล เพราะขึ้นตอนอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล
สำหรับข้อมูลทางการข่าวนั้นบอกว่านายเปรมชัย ได้หลบหนีไปต่างประเทศโดยอาศัยช่องทางธรรมชาตินั้น ตรงนี้เราไม่ทราบข้อมูลนี้ เราไม่มีข้อมูลว่าไปทางช่องทางธรรมชาติ ถ้ามีข้อมูลตรงนี้ก็เป็นเรื่องของผู้บัญชาการเป็นผู้สั่งการเอง แต่ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่าออกไปนอกประเทศแล้ว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางนายเปรมชัย มีบ้านพักอยู่ที่ทวาย เพราะมีการรับเหมาเส้นทางทวย พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า ตรงนี้เราก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนหรือเป็นที่แน่นอน ก็ทราบข้อมูลนี้มาจากสื่อที่มีข่าวออกมา และที่อยู่นอกประเทศของเราด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีความสามารถเข้าไปตรวจสอบได้
เมื่อถามว่าเสียงจากคลิประบุว่ามีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ตรงนี้ได้มีการตรวจสอบคลิปเสียงว่าเป็นเสียงนายเปรมชัยแล้วหรือยัง พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องนั่นคือเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง จะต้องตรวจสอบว่าคลิปเสียงนี้เป็นเสียง ที่มีการตัดต่อแต่งเติมหรือแก้ไขหรือไม่ และก็คงต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม เพราะว่าต้องได้รับคำยืนยันผลการตรวจ ซึ่งเรามีหน่วยงาน ปอท.ในการตรวจสอบ
“ตอนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้มาแจ้งข้อหาต่อนายเปรมชัยกับพวกเพิ่มอีก 1 ข้อหา ปัจจุบันเป็น 10 ข้อหา ซึ่งข้อหาหลังสุดเราก็ต้องเชิญนายเปรมชัยกับพวกมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และมันจะมีอีก 2 ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นความผิดที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาร้องทุกข์เอาไว้ แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งต้องสอบทางนิติกร เพราะไม่มีประจักษ์พยาน สำหรับสองข้อหาดังกล่าวก็คือการเข้าไปในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต และอีก 1 ข้อหาคือมีเครื่องมือล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะทั้ง 2 ข้อหาไม่มีโทษทางอาญา จึงต้องสอบทางนิติกรของป่าไม้”
พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเรื่องสำนวนที่จะส่งให้อัยการจะต้องรอหลักฐานทั้งหมดเพื่อรวมเป็นสำนวนเดียวกัน และคาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการนั้น คือทางเจ้าหน้าที่ของเรามีกรอบระยะเวลาอยู่แล้ว เพราะว่าเราฝากขังผู้ต้องหาไว้กับศาล ศาลก็มีกรอบระยะเวลาของศาล สูงสุดก็ฝากได้ไม่เกิน 7 ครั้งครั้งละไม่เกิน 12 วัน แต่ทุกครั้งที่นำไปฝากขัง ต้องชี้แจงให้ศาลทราบว่า ที่เรายังทำสำนวนไม่เสร็จนั้นเพราะเราต้องดำเนินการอะไรอยู่ ทำไม่สำนวนถึงยังไม่เสร็จ จากนั้นศาลท่านก็จะเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่าหวั่นใจในเรื่องของสำนวนหรือไม่ เพราะทางทีมทนายของฝ่ายผู้ต้องหาค่อนข้างที่จะมีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า ตรงนี้เราไม่ได้หวั่นไหว เพราะเราได้ทำตามพยานหลักฐานที่มีอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนายเปรมชัย กรรณสูตร พร้อมพวก 4 คน ถูกดำเนินคดีใน 9 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.มีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
4.พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
5.นำอาวุธปืนหรือเครื่องจับหรือล่าสัตว์ป่าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต
6.รับไว้ช่วยเหลือซ่อนเร้นซากสัตว์ป่าที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
7.เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
8.มีเครื่องมือล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ
9.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อ รวมเป็น 10 ข้อหาคือข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมในครั้งคณะเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
สำนักข่าววิหคนิวส์