ตั้งท้อง 9 เดือน ทารกในครรภ์พัฒนาเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวัน แต่ระหว่างกำลังพัฒนา ก็กลัวสิ่งเหล่านี้! แถมสิ่งที่ทารกในครรภ์ “กลัว” เกี่ยวข้องกับความเคยชินในการใช้ชีวิตของคุณแม่ มาดูกันเลยว่าแต่ละเดือนทารกกลัวอะไรกันบ้าง
เดือนที่ 1 : กลัว “อุณหภูมิสูง”
สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ ไข่ที่เพิ่งจะผสมพันธุ์กลัวอุณหภูมิสูงๆที่สุด เพราะงั้นหลีกเลี่ยงที่ๆอุณหภูมิสูง และยิ่งไม่ควรซาวน่าหรือแช่น้ำร้อน ระวังไม่ให้มีไข้สูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับระบบประสาทของทารก
เดือนที่ 2 : กลัว “ยา”
ตอนที่ทารกอายุ 2 เดือน จะเริ่มเป็นรูปร่าง คุณแม่ก็จะเริ่มมีอาการของคนท้องต่างๆนานา เช่นอยากกินของเปรี้ยว ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง ช่วงนี้คุณแม่ห้ามกินยาเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกมีสภาพร่างกายที่บกพร่อง
เดือนที่ 3 : กลัว “บุหรี่แอลกอฮอล์”
ช่วงนี้ทารกในครรภ์จะมี “เสียงหัวใจเต้น” แล้ว แถมพัฒนาการเร็วมาก คุณแม่ส่วนใหญ่อาจจะมีอาการแพ้ท้องอาเจียนตอนเช้า แต่ไม่ต้องกังวลไป เพียงแค่หลีกเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ อาหารมัน น้ำตาลสูงก็พอแล้ว
เดือนที่ 4 : กลัว “เสียงดัง”
ช่วงนี้ถ้าคุณทำการทดสอบทารกตามหลัก Taegyo ทารกจะตอบสนองคุณในรูปแบบต่างๆ จำไว้ว่าในช่วงนี้คุณต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ทารก หลีกเลี่ยงเสียงรบกวนที่ดังเกินไป เด็กถึงจะมีการเติบโตและมีพัฒนาการ
เดือนที่ 5 : กลัว “สารอาหารไม่เพียงพอ”
เมื่อทารกโตมาได้ 5 เดือน จะเริ่มมีผมมีขน ช่วงนี้คุณแม่ต้องบริโภคสารอาหารประจำวันเพิ่มขึ้นประมาณ 300 แคลอรี่
เดือนที่ 6 : กลัว “รังสี”
เดือนนี้ทารกจะมีการสร้างอวัยวะภายใน และมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเสียงภายนอก โดยเฉพาะเสียงรบกวน ด้งนั้นคุณแม่ต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อรังสีสูง
เดือนที่ 7 : กลัว “ความกดดันทางอารมณ์”
ทารกในเดือนนี้จะสามารถลืมตาได้ในช่วงเวลาสั้นๆและสามารถขยับมือเท้าได้แล้ว เป็นช่วงที่ทารกจะได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของคุณแม่ได้ง่ายมาก ถ้าคุณแม่เครียดเกินไปจะมีผลต่อพัฒนาการของลูก
เดือนที่ 8 : กลัว “คุณแม่เหนื่อย”
อวัยวะต่างๆ ในร่างกายของทารกพัฒนาได้เต็มที่แล้ว ในช่วงนี้ถ้าคุณแม่เหนื่อยเกินไป จะเป็นการทำร้ายทารก เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรง ลดการทำงานบ้าน และการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเยอะ
เดือนที่ 9 : กลัว “คุณแม่กังวล”
เมื่อเห็นว่าลูกกำลังจะคลอดแล้ว คุณแม่หลายๆคนจะเริ่มเป็นกังวล กลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย ถ้าเป็นแบบนั้นสามารถไปปรึกษาคุณหมอเพื่อความสบายใจได้
แปลและเรียบเรียงโดย : LIEKR
สำนักข่าววิหคนิวส์