เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้นำเสนอว่า.. ตอนออกจากบ้าน ลูกชายบอกอาจางว่า “พ่ออย่าขับรถเร็วนะครับ”
เขาได้ยินก็มีความสุข คำพูดประโยคเดียวของลูกชายทำให้ความเหน็ดเหนื่อยทั้งวันหายไป
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
6 โมงเช้าในวันหนึ่งกลางฤดูหนาวที่ฟ้ายังไม่สาง อาจางก็เริ่มสตาร์ทรถที่เช่ามา เพื่อให้เครื่องร้อน วันนี้เขาหวังว่าจะหาเงินให้ได้เยอะสักหน่อย เพราะใกล้จะถึงวันเกิดลูกชายแล้ว เขาอยากซื้อของขวัญให้แก
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
ช่วงเช้าอาจางขับไปแล้วหลายรอบ แต่คิดๆดูแล้วก็ยังได้เงินไม่พอ ในใจก็เริ่มร้อนรน ตอนกลางวัน เพื่อจะรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้น เขาก็เลยไม่ได้กินข้าวเที่ยง แต่พอเห็นรายได้ที่ได้มาจากช่วงกลางวันก็พอใจจนยิ้มออกมาได้ ตอนส่งผู้โดยสารคนสุดท้ายเสร็จ แล้วเตรียมตัวไปกินข้าว ก็มีหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีเปิดประตูขึ้นรถมา แล้วบอกให้เขา : “ไปสถานีรถไฟ”
อาจางเป็นคนกระเพาะอาหารไม่ค่อยดีอยู่แล้ว แถมตอนเที่ยงก็ไม่ได้กินข้าวเพราะมัวแต่รับผู้โดยสาร ทำให้ตอนนี้เริ่มปวดท้อง แต่พอเห็นผู้โดยสารคนนี้ขึ้นรถมาแล้วจะไม่รับก็ไม่ได้ เขาก็เลยเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟ
ขับมาได้ครึ่งทาง อาจางก็รู้สึกปวดท้องมากจนพูดเสียงสั่น: คุณครับ ขอผมอ้อมไปซื้ออะไรข้างหน้ากินหน่อยได้มั้ย ผมเป็นโรคกระเพาะ แต่ถนนเส้นนี้จอดลงไปซื้อไม่ได้ เดี๋ยวไปถึงสถานีรถไฟแล้วผมคิดค่าโดยสารถูกลงให้ได้มั้ยครับ? ผู้โดยสารไม่ได้พูดอะไรมากมาย ตอบเบาๆว่า : โอเค
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
อาจางได้ยินผู้โดยสารอนุญาตก็รีบขอบคุณ พอถึงแยกถัดไปก็เลยเลี้ยวไปด้านตรงข้ามกับถนนที่ไปสถานีรถไฟ แล้วจอดหน้าร้านซาลาเปาร้านหนึ่ง ผู้โดยสารสาวเห็นอาจางเดินกุมท้องไปหน้าร้าน ก็คิด : นี่เป็นพ่อของใคร เป็นสามีของใคร?
เธอคิดถึงรอยยิ้มและแผ่นหลังของพ่อขึ้นมา นึกถึงพ่อที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเธอ ขอบตาก็แดง อาจางซื้อซาลาเปาได้ก็เดินไปกินไปเพราะกลัวจะเสียเวลาผู้โดยสาร เมื่อเดินมาถึงรถก็เอาซาลาเปาที่ยังกินไม่หมดวางไว้ในรถ ผู้โดยสารเห็นดังนั้นก็พูดว่า : กินให้หมดก่อนก็ได้ค่ะ ฉันไม่รีบ
อาจางได้ยินดังนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยรีบกินซาลาเปาที่ซื้อมาจนหมด ผู้โดยสารก็ส่งน้ำขวดนึงมาให้จากเบาะด้านหลัง ทำให้อาจางรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น เพราะตัวเขาขับอ้อมทำให้ผู้โดยสารเสียเวลา นึกไม่ถึงว่ากินซาลาเปาเสร็จ จะยังยื่นน้ำให้เขาอีกขวด
อาจางดื่มน้ำเสร็จ ผู้โดยสารก็ถาม : คุณทำงานจนไม่กินข้าวเลยหรอ? อาจางยิ้มๆว่า : เพื่อลูกลำบากแค่ไหนผมก็ยอม การเป็นพ่อคนก็อย่างนี้ อยากให้ลูกมีชีวิตดีๆ ผู้โดยสารฟังเสร็จก็ไม่ได้พูดอะไร หันไปมองนอกหน้าต่างนิ่ง
ไม่นานก็มาถึงสถานีรถไฟ มิเตอร์ขึ้นว่า 38 หยวน อาจางก็เลยบอกผู้โดยสารไปว่าคิดแค่ 30 หยวนพอ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ผู้โดยสารได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร หยิบเงินออกมาส่งให้เขา อาจางรับเงินเป็นแบงค์ 100 มา ตอนที่กำลังจะทอนให้ ผู้โดยสารก็เปิดประตูออกไปก่อน อาจางรู้สึกประหลาดใจ ก้มมองดูเงินในมือ ถึงได้เห็นว่าเมื่อคลี่แบงค์ร้อยออกมายังมีเงินอีก 138 หยวน รวมเป็น 238 หยวน ดูเหมือนว่าผู้โดยสารจะให้ค่ารถเกินมา 200 หยวน อาจางงง ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้โดยสารให้เงินเกินมาตั้งเยอะ เขาก็เลยตะโกนตามหลังไป : คุณครับ ให้เงินเกินมา ผู้โดยสารได้ยินก็ตะโกนกลับมาว่า : 200 นั่นฉันให้ไว้ซื้อยา ถ้าคุณไม่สบายขึ้นมา ลูกชายจะต้องทุกข์ใจแน่ๆ พูดจบเธอก็เดินจากไป
อาจางมองเงิน 238 หยวนในมือน้ำตาไหล เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้เจอคนดีแบบนี้ ตกเย็นกลับถึงบ้าน เขาเอาเงิน 238 หยวนที่ได้ไปวางไว้ใต้กระจกบนโต๊ะ ตั้งใจจะเก็บไว้อย่างนั้นตลอดไป เขาอยากให้เงิน 238 หยวนนี้เป็นกำลังใจให้เขาในการดูแลสั่งสอนลูก อยากให้ลูกเห็นเงิน 238 หยวนนี้แล้ว สามารถมีใจเมตตาออกไปช่วยเหลือผู้อื่น
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR
สำนักข่าววิหคนิวส์