วันที่ 9 มี.ค. เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่สำนักงานอัยการแขวงปทุมวัน พนักงานอัยการ นัดหมายผู้ต้องหาในคดีคนอยากเลือกตั้ง หรือ MBK39 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 และชุมนุมในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากการชุมนุมที่สกายวอล์ก หน้าห้างสรรพสินค้า MBK (มาบุญครอง) เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาให้มารายงานตัว โดยมีผู้ต้องหามารายงานตัว 23 คน โดยมี 5 คนขอเลื่อนการเข้ารายงานตัวไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากติดภารกิจ โดยในวันนี้ พนักงานอัยการเจ้าของสำนวน มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่าการฟ้องจะไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ และจะได้ทำความเห็นพร้อมส่งสำนวนไปที่อัยการสูงสุด(อสส.) ให้มีความเห็นต่อไป พร้อมนัดผู้ต้องหามารายงานตัวและฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 19 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอัยการเจ้าของสำนวนยังไม่ถือว่าทำให้คดีสิ้นสุด ยังต้องรอความเห็นจากอัยการสูงสุดต่อไป โดยการส่งสำนวนไปที่อัยการสูงสุดของพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน เป็นไปตามอำนาจใน พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 21 วรรคสอง ซึ่งระบุว่า “ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าการฟ้องคดีอาญาจะไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ ให้เสนอต่ออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งไม่ฟ้องได้ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนด โดยความเห็นชอบของ ก.อ.”