ญาติเศร้า!เตรียมเผาเหยื่อทัวร์มรณะ 18 ศพ ที่ วัดกาฬสินธุ์ 1ในคนเจ็บเผยคนขับทิ้งพวงมาลัยวิ่งขึ้นชั้น2หนีทางประตูฉุกเฉิน ขณะ ตร.โคราช ฝากศาลขังโชว์เฟอร์แล้ว
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่าบรรยากาศการเตรียมงานฌาปนกิจศพ เหยื่อรถทัวร์มรณะทั้ง 18 ศพ ในวันนี้มีกำหนดที่จะเผาศพตามประเพณีเผาศพโบราณ ที่ชาวบ้านภาคอีสานเรียกว่า เผาด้วยกองฟอน หรือ เชิงตะกอน ซึ่งเจ้าหน้าที่และญาติพี่น้องนำไม้ฟืน ถ่าน และยางรถยนต์มากองรวมกันเพื่อที่จะทำการเผากลางแจ้งเนื่องจากเป็นการเสียชีวิตพร้อมกันหลายคนเตาเผาศพจึงไม่พอ ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
อีกทั้งบรรดาญาติพี่น้องมีความประสงค์ที่จะเผาศพผู้เสียชีวิตพร้อมกัน เพราะทุกคนเป็นญาติพี่น้องกันเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกัน จึงอยากให้ไปสู่สุขติพร้อมๆกัน
โดยที่วัดดงกระยอมอุดมคุณ ตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ได้เตรียมที่จะเผาจำนวน 5 ศพ
ซึ่งกำหนดการฌาปนกิจศพในเวลา 14.00 น. โดยญาติที่พอจะมีกำลังเงินได้ว่าจ้างให้มาประดับตกแต่งซุ้มบริเวณเชิงตะกอน หรือกองฟอน ขณะที่ วัดป่าพุทธมงคล ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ไม้กองฟอน หรือเชิงตะกอนได้ถูกนำมาวางเรียงไว้เป็นที่เรียบร้อยเช่นกันซึ่งวัดแห่งนี้จะทำการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ศพ ซึ่งกำหนดการฌาปนกิจศพในเวลา 16.00 น. โดยพระราชศีลโสภิต หรือหลวงปู่หนูอินทร์ เกจิชื่อดังและเป็นเจ้าอาวาสวัด ได้เข้ามาตรวจสอบสถานที่ทั้งนี้บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจและหดหู่ใจ และญาติได้ทำการถวายภัตตาหารเช้าเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานฌาปนกิจทั้งสองแห่ง นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ จะเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวจะทำการฌาปนกิจในวันนี้ 25 มีนาคม 2561 ซึ่งมีเพียงนายวิรุฬห์ ตะก้อง และนางเรียน ธารวาวแวว ซึ่งญาติจะทำการฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ 26 มีนาคม 2561ขณะที่ผู้รอดชีวิต ซึ่งได้กลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จำนวน 6 รายได้เริ่มฟื้นและมีอาการที่ดีขึ้น
เหยื่อเผยคนขับวิ่งขึ้นชั้น2 หนีทางประตูฉุกเฉิน
ซึ่งนางรัตนาพร ทุมเกษร เหยื่อผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทัวร์มรณะได้เล่านาทีระทึกและเชื่อว่าเหตุครั้งนี้ คนขับตั้งใจที่จะฆ่าลูกทัวร์เพราะระหว่างที่รถเริ่มเสียหลักได้เห็นคนขับทิ้งพวงมาลัยรถแล้ววิ่งหนีออกทางประตูฉุกเฉินนางรัตนาพร ทุมเกษร กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้มั่นใจ ว่าคนขับทิ้งลูกทัวร์ เพราะตนเห็นคนขับที่เสพยาบ้าคนนี้ วิ่งผ่านหน้าตนไปขณะที่ รถเริ่มส่ายไปมาโดยตนได้นอนอยู่ชั้นบนกับพื้นกับสามีก็เห็นคนขับวิ่งขึ้นมาชั้นสองก่อนที่จะเปิดประตูแล้วกระโดดออกไปจากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุ เพราะสิ่งที่จำได้ นางสมพิศ หัวหน้าทัวร์ ซึ่งอยู่ชั้นสองด้วยกันได้ให้สามีวิ่งลงไปบังคับรถ แต่ไม่ทันเพราะรถได้ชนเข้าที่เกาะกลางถนนจากนั้นก็พุ่งชนเข้าที่ร้านค้า
เหตุครั้งนี้จึงเชื่อว่า คนขับรถตั้งใจทิ้งแน่นอน จึงต้องการให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุดสำหรับอาการผู้บาดเจ็บจำนวน 6 ราย ที่มาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ อาการเริ่มดีขึ้นแต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการวิตกกังวลเนื่องจากต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ร้ายแรงในครั้งนี้
ตร.โคราชฝากศาลขังโชว์เฟอร์ทัวร์มรณะ18ศพแล้ว
จากกรณีอุบัติเหตุรถบัสนำเที่ยวจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เสียหลักพลิกคว่ำขณะเดินทางกลับจากไปท่องเที่ยวทะเลที่จังหวัดจันทบุรี บริเวณถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ราชสีมา ทางลงเขาวังน้ำเขียว ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 32 ราย และเสียชีวิต 18 ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เช้าวันนี้ (25 มี.ค. 61) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดีรถบัส ของบริษัทกันเองทัวร์ จ.กาฬสินธุ์ พลิกคว่ำจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 32 รายนั้น ซึ่งภายหลังจากที่ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ได้ทำการจับกุมนายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี โชว์เฟอร์ขับรถบัสคันดังกล่าว ที่หลบหนีหลังจากเกิดเหตุได้ ก็ได้ทำการสอบสวนและแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อเหตุแล้วหนี และมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนอีก 1 ข้อหาคือขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งตัวนายกฤษณะไปฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนการแจ้งข้อหาผู้ประกอบการรถทัวร์ บริษัทกันเองทัวร์ จ.กาฬสินธุ์นั้น ตนเองได้สั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวน 1 ชุด
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อทำการสอบพยานผู้ได้รับบาดเจ็บ พยานแวดล้อม และหาหลักฐานเพิ่ม รวมทั้งประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจพิสูจน์รถยนต์คันเกิดเหตุอย่างละเอียด และเร่งให้สรุปสำนวนคดีให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะแจ้งข้อหาผู้ประกอบการเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อหาไม่ตรวจสภาพรถตามกำหนด และปล่อยให้พนักงานขับรถเสพสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากครั้งนี้
Cr:inn
สำนักข่าววิหคนิวส์